ร้านผ้าม้วนใกล้ฉัน จากสำเพ็งสู่ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส และอเมริกา “ที่บ้านเรามีธุรกิจผ้าเปิดมา 30-40 ปีแล้ว ทำหน้าที่เป็นคนกลางสั่งโรงงานทอผ้าแล้วเอามาขาย” ออยเล่าถึงจุดเริ่มต้นของพวกเขาให้เราฟัง เช่นเดียวกับร้านขายส่งผ้าบ้านใกล้เรือนเคียง ธุรกิจของพวกเขาคือการขายส่งผ้าล็อตใหญ่ให้แบรนด์เสื้อผ้า แต่เมื่อแบรนด์ใหญ่ต่างประเทศเริ่มตีตลาดในไทยได้ ลูกค้าของพวกเขาก็ได้รับผลกระทบ นำมาสู่การซื้อผ้าที่น้อยลง“เราว่าเอฟเฟกต์หลักคือแบรนด์ออนไลน์” เอ็มผู้เป็นน้องชายเสริมขึ้น “ลูกค้าเก่าเราคือลูกค้าแบรนด์ที่ขายในห้าง พอการขายออนไลน์เกิดขึ้นทุกอย่างในห้างตายหมด เพราะผู้ผลิตออนไลน์ใช้ผ้าดี คุณภาพตัดเย็บดีกว่าหรือพอๆ กับในห้างมาขายในราคาที่ถูกกว่าทำให้แบรนด์ในห้างจบเลย”
โชคดีที่ในขณะที่ลูกค้าเก่าเริ่มหายไป 3 ปีที่แล้วโอกาสใหม่ก็เดินทางเข้ามา ร้านผ้าม้วนใกล้ฉัน และเป็นจุดเริ่มต้นของ J Fabric ในปัจจุบัน
“ตอนนั้นมีลูกค้าของเราชวนไปพบผู้ผลิตผ้าชาวญี่ปุ่นที่กำลังหาตัวแทนจำหน่ายในไทย พอไปพบเราก็ได้รับผ้าคอลเลกชั่นหนึ่งให้มาลองเปิดตลาดในประเทศไทย ปรากฏว่าขายได้ มีผลตอบรับที่ดี แต่เราเริ่มรู้สึกว่าเรารับมาขายแบรนด์เดียวมันไม่เพียงพอ เราก็ตามหาต่อ เป็นที่มาของการบินไปเลือกผ้าเองที่ญี่ปุ่น เริ่มไปเกาหลี ไปเดินงานแฟร์ผ้าที่ต่างประเทศ เหมือนเราติดลมในการหาแบรนด์ใหม่ๆ มาเติมเรื่อยๆ”
ออยเล่าว่า แรกเริ่มพวกเขาขายทางออนไลน์เป็นหลัก แต่เพราะผ้าที่พวกเขาขายเป็นผ้าคุณภาพดีจากญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส และอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่ามีราคาสูงกว่าผ้าในตลาดทั่วไปทำให้ลูกค้าอยากเดินทางมาดูผ้าก่อนตัดสินใจซื้อ แต่หน้าร้านเก่าของพวกเขาซึ่งเคยเป็นร้านขายส่งมาก่อนก็ไม่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้เอาเสียเลย“แต่ก่อนเราเป็นร้านขายส่ง ข้างล่างเป็นโกดัง เราก็ทำโชว์รูมผ้าต่างประเทศบนชั้น 2 ไม่ได้ตกแต่งเยอะ มีโต๊ะตรงกลางห้องแล้วก็วางผ้าโชว์ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะมาโดยการนัด เพราะว่าร้านหายาก ทุกคนก็จะโทรมาถามทางก่อน บางคนก็หลงทาง มาด่าเราในเพจก็มี พอมาถึงเราพาเขาขึ้นไปดูผ้าแล้วก็ต้องนั่งรอเขา บางคนก็เครียดจนไม่ซื้อเลย (หัวเราะ)” ร้านผ้าม้วนใกล้ฉัน
นั่นจึงเป็นที่มาของการย้ายร้านออกมาอยู่ติดถนนจักรวรรดิเพื่อให้ลูกค้าหาร้านได้ง่าย รวมถึงพวกเขายังทำร้านให้กว้างขวาง มีสเปซสำหรับให้คนที่มาด้วยได้นั่งรอ มีโต๊ะให้นั่งเลือกผ้า และสร้างบรรยากาศสบายๆ ไม่กดดันเหมือนร้านเก่าอีกต่อไปผ้าต่างประเทศที่ตรงใจคนไทย
เพียงกวาดตามองผ้ารอบๆ ห้องโชว์รูม เราก็พบว่าพวกเขามีผ้าจากสี่ประเทศ ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส และอเมริกา ละลานตาจนเราต้องขอให้เอ็มช่วยอธิบายว่าผ้าแต่ละประเทศแตกต่างกันอย่างไร
เขาชี้ไปที่ผ้าญี่ปุ่นซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ J Fabric
“ผ้าญี่ปุ่นที่เราขาย หลักๆ มีสองแบรนด์คือ Lecien กับ Kokka แบรนด์ Lecien จะค่อนข้างมีชื่อเสียงในประเทศไทย ลูกค้าที่ชอบทำงาน quilt จะรู้จัก Lecien เหมือนเรารู้จักกระเป๋าแบรนด์เนมนั่นแหละ ส่วน Kokka เป็นแบรนด์ดังอีกแบรนด์ของญี่ปุ่น มีดีไซเนอร์ออกแบบผ้าแต่ละคอลเลกชั่น มีเรื่องราว เช่น คอลเลกชั่นนี้ดีไซเนอร์ได้แรงบันดาลใจมาจากสีสันดอกไม้ที่ฮาวาย ซึ่งคนที่สะสมผ้า เล่นผ้าเขามักจะซื้อกลับมาจากญี่ปุ่นมาขายเป็นจำนวนน้อย แต่คนที่นำเข้ามาขายในไทยมีแค่ที่เราที่เดียว”
วันหลังเจอเรื่องราวโควิด ร้านขายผ้าเขตทองต้นแขนต่างก็จำเป็นที่จะต้องปรับพฤติกรรมเพื่อความอยู่รอด โดยหันมาเปิดขายผ่านวิธีออนไลน์ แม้กระนั้นในวิกฤตเป็นวิถีทาง พอเพียงเวลาผ่านไปตลาดออนไลน์เติบโต พอเพียงจะสร้างยอดขายได้บ้าง ถึงแม้ก็ควรต้องมาถูกซ้ำเติมด้วยเสื้อผ้านำเข้าจากจีน ทำให้ร้านขายของตัดเย็บเสื้อผ้าเลิกผลิตหันมาค้าเสื้อผ้าจากจีน กระทบยอดขายผ้าม้วนจนกระทั่งบางร้านรวงจำเป็นจะต้องปิดหน้าร้านทุ่นค่าใช้จ่าย รวมทั้งหันมาทำตลาดออนไลน์ประคับประคองธุรกิจการค้า จากยอดขายเดือนละ 3 แสนบาท เหลือไม่ถึง 3 หมื่นบาท
โดยในตอนเริ่มธุรกิจผ้าม้วนเป็นไปได้ด้วยดีลูกค้าที่พึงพอใจซื้อเสื้อผ้า
ผ้าทุกจำพวกต่างก็เข้ามาซื้อผ้าในห้างฯ เพราะนอกจากผ้าแล้วทางร้านก็ยังมีเสื้อผ้าแล้วก็ธุรกิจอื่นที่ต่อเนื่องกันในห้างไชน่าเวิลด์ ทำให้ลูกค้าครบจบในที่เดียว ไม่ต้องเสียเวล่ำเวลาเดินทางไปในหลายๆที่ เมื่อมีลูกค้าเข้ามาซื้อผ้ารวมถึงเข้ามาใช้บริการในห้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ค้าในห้างแย่งลูกค้าแล้วก็ลดรู้จัก มีการแข่งขันสูง ร้านผ้าม้วนใกล้ฉัน
แม้กระนั้น ธุรกิจผ้าเริ่มซบเซาลงมากพอเพียงเกิดเหตุโควิด หน้าร้านเริ่มไม่ดียอดขายลดลงเกือบจะจำเป็นต้องปิดหน้า ด้วยเหตุว่าทนแบกภาระค่าใช้จ่ายในการเช่าหน้าร้าน และค่าเจ้าหน้าที่ไม่ไหว ตอนท้ายจำเป็นจะต้องปิดหน้าร้านขายของ รวมทั้งหันไปเปิดขายผ่านวิถีทางออนไลน์ มาจนกระทั่งตอนนี้ โดยย้ำทำตลาดใน google my business เว็บไซต์ รวมถึงวิถีทางโซเชียลอย่าง เฟซบุ๊ก
ยิ่งกว่านั้น ทางร้านรวงพาวยังรับตัดเสื้อผ้าโดยรับออกแบบ ดีไซน์ทำแพทเทิร์น
พร้อมตัดเย็บส่งให้ลูกค้าทำแบรนด์ของตนเอง อย่างเช่นแบรนด์ original Jolie joy ที่ขายในห้าง รวมทั้งทางร้านขายของยังขายผ้า ที่หายากลูกค้าที่เคยมาซื้อและไม่สามารถไปพบซื้อร้านขายของอื่นได้ ติดต่อกลับเข้ามาซื้อกับเรา เป็นต้นว่า ผ้าเอมี่ ผ้าซาตินหน้ากว้างที่จะใช้เป็นผ้าตัดชุดเพื่อนเจ้าสาวและเป็นผ้าซับใน หรือเป็นผ้าทำชุดใส่นอนเป็นผ้าเนื้อนุ่มครึ้ม ย้ำสีสันแจ่มใสวับแวมลูกค้าสามารถเลือกตามแคตตาล๊อกที่ร้านรวงจัดให้ จุดขายอีกอย่างหนึ่งของทางร้านรวงคือเรามีผ้าสต็อกที่แพงถูก ได้แก่ ผ้าตัดชุดฟอร์ม ชุดพยาบาล ผู้ช่วยแพทย์ หรือชุดช่างในโรงงาน อื่นๆอีกมากมาย
ขายผ้าม่าน ม่านม้วน ฉาก ม่านปรับแสงไฟ รวมทั้ง วอลเปเปอร์ติดฝาบ้านลายไทย
ทางร้านมีผ้าม่านให้เลือกเยอะมาก ได้แก่ ผ้าพื้น ผ้าลายในตัว ผ้าโปร่ง และที่กำลังนิยมเป็น ผ้าร้องไห้ โดยแบบผ้าม่านที่ลูกค้านิยมตัดเย็บดังเช่นว่า ม่านจีบซึ่งเป็นแบบมาตรฐานใช้ได้ทุกตอน ปัญหาในการใช้งานน้อย ม่านพับสำหรับบ้านสมัยใหม่ ผ้าม่านแบบรางโชว์ช่วยเพิ่มความสวยงาม ม่านลอน และ ม่านตอกตาไก่
ทางร้านขายของยังมีรางม่านแบบต่างๆมากมายให้ได้เลือกใช้งานอีกด้วย ได้แก่ รางม่านพับ รางม่านม้วน รางตัวเอ็ม รางดัดโค้ง
ม่านม้วน
ม่านม้วนเป็นแบบม่านยอดฮิตเยอะมากชนิดหนึ่ง เหมาะสมกับการแต่งบ้าน,คอนโดยุคสมัยใหม่ที่ย้ำความธรรมดารวมทั้งมองดูโปร่งเตียน
ทางร้านรวงมีม่านม้วนให้เลือกใช้3ชนิด เป็นชนิดป้องกันแสงแดดแต่แสงไฟยังผ่านได้ ชนิดป้องกันแสงแดดได้บ้างแต่สามารถแลเห็นทิวภาพด้านนอกได้ด้วย แล้วก็ ประเภททึบแสงซึ่งสามารถร้องไห้ได้แทบจะ100%
ม่านปรับแสงไฟ
จำพวกใบของม่านปรับแสงไฟทางร้านขายของมีขายทั้งยังพวกใยสังเคราะห์และอลูมินัม แต่ตอนนี้โดยมากจะใช้เป็นชนิดใยสังเคราะห์กัน ตัวใบม่านวางตัวในแนวตั้งสามารถปรับระดับแสงไฟได้ในแนวตั้ง นิยมใช้กันเยอะมากทั้งในบ้านและก็ที่ทำงานเพราะว่าแพงไม่แพงและใช้งานได้ง่าย
ม่านไม้
ไม้จัดเป็นวัสดจากธรรมชาติที่ไม่ว่าจะกี่ตอนก็ยังได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย สำหรับท่านที่กำลังมองหาการตกแต่งบ้านด้วยข้าวของที่มาจากธรรมชาติ การเลือกใช้ม่านบังตาไม้สำหรับการแต่งบ้านถือว่าเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับเพื่อการตกแต่งในแนวนี้ ลักษณะเด่นของตัวที่บังตาไม้ที่ดินร้านจำหน่ายเป็นการร้อยใบด้วยด้าย2เส้นด้านบนและจากนั้นก็ด้านล่างของตัวใบที่บังตา ช่วยปรับใบเรียงตัวเป็นระเบียบเสมอเวลาปรับใบทางร้านขายของขายมีไม้ให้เลือก2พวกดังเช่นว่าไม้บาสรวมถึงไม้ราไม่น มีสีให้เลือกถึง8สี และก็มีเทปบันได้ผ้าให้เลือกกว่า10สีเพื่อความสวย
ม่านบังตา
ม่านเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับป้องกันแสงแดดที่มีมานานแล้วก็ในยังได้รับความนิยมมากมายระทั่งในช่วงเวลานี้ จุดแข็งของตัวฉากเป็นเป็นจะแผ่นอลูมินัมวางเรียงซ้อนกันในแนวขนานสามารถปรับมุมองศาของตัวใบเพื่อแสงไฟผ่านเข้าออกได้ตามมุ่งหมาย มีให้เลือกใช้2ขนาดเป็น ขนานปกติ25มม.ร้อยใบด้วยเชือก แล้วก็ ขนาดใหญ่ 50มม.ร้อยใบม่านบังตาด้วยเทปผ้า สำหรับลูกค้าที่ต้องการย้ำความงามควรเลือกขนาดใบ50มม.เพราะร้อยใบด้วยเทปบันไดที่ทำมาจากผ้าช่วยปรับฉากมองดูสวยเก๋กว่าการร้อยด้วยเชือกแบบเดิมๆ ร้านผ้าม้วนใกล้ฉัน
วอลเปเปอร์ลายไทย
วอลเปเปอร์ติดฝาผนังบ้านลายไทยสร้างขึ้นมาจากไวนิลเหมาะที่จะนำไปติดเพื่อตกแต่งฝาตามร้านอาหารไทย ร้านรวงสปา ฝาผนังบ้านโบสถ์ หรือสถานที่ที่อยากได้แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทางร้านรวงมีแบบลายไทยให้เลือกเยอะแยะถึง5เล่ม ตัวอย่างลายมีเยอะแยะ อย่างเช่น ลายเทพพนม ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายช่อเปลว ลายประจำยาม ฯลฯ เชื้อเชิญรับมองตัวอย่างเต็มๆถึงที่กะไว้หน้าร้านรวง
เดี๋ยวนี้เรามีทางเลือกล้นหลามในการวางแบบตกแต่งบ้าน จากครั้งกระโน้นที่ใช้แบบสำเร็จรูปของกลยุทธ์ได้
แปลงมาเป็นเรื่องดีไซน์บ้านด้วยระบบ “เปลี่ยนแปลงปรับปรุงแก้ไข” (Product Customization) เพื่อทำให้บ้านตรงกับความอยากได้ของเรามากขึ้น การออกแบบบ้านในระบบนี้ทำให้ขนาดแล้วก็จำนวนหน้าต่างของบ้านมีความแตกต่างจากบ้านด้านหลังอื่นๆปกติ บ้านที่ออกแบบด้วยระบบ Customization ถูกใจมีหน้าต่างรวมทั้งประตูที่มีขนาดรวมทั้งจำนวนน้อยเกินไปๆกับบ้านธรรมดา โดยเหตุนี้การสั่งตัดผ้าม่านเป็นการเลือกที่ดีที่สุดสำหรับบ้านประเภทนี้ ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นนิยมทำกันเป็นอันมาก เหตุเพราะการเลือกสั่งตัดผ้าม่านจำทำให้ผ้าม่านดูสวยรวมถึงพอดีเป๊ะกับความสูงและความกว้างหน้าต่าง ไม่แคบอย่างยิ่งหรือกว้างอย่างยิ่ง ไม่กองพื้น อื่นๆอีกมากมาย ผ้าม่านลายสวยๆเนื้อดีๆก็อาจจะทำให้ห้องดูเลอะเทอะสบายตาได้ถ้ายาวเกินจำเป็นหรือสั้นเกินไป อีกผลตอบแทนที่ได้รับของการเลือกตัดเย็บผ้าม่านตามขนาดเป็นการที่เราจะมีออปชั่นมากมายสำหรับในการเลือกจำพวกของผ้า การที่มีจำนวนผ้าให้เลือกหลากหลายทำให้เราหาผ้าม่านที่ถูกใจง่ายขึ้น ยิ่งมีให้เลือกเยอะมาก ยิ่งมีโอกาศพบผ้าที่พอใจเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ร้านรวงขายผ้าทำม่านรวมถึงมีบริการตัดเย็บผ้าม่าน เครื่องรับฝากถอนเงินอัตโนมัติ เดคอร์ ทองต้นแขน
สำหรับในการเลือกสั่งตัดผ้าม่าน นอกเหนือจากการซื้อผ้าแล้ว ยังควรมีค่าใช้สอยสำหรับค่าตัดเย็บม่านอีก ด้วยเหตุดังกล่าวบางบุคคลอาจเลือกที่จะตัดเย็บผ้าม่านแบบ Do It Yourself (ตัดเย็บออกแบบผ้าม่านเอง) เพื่อประหยัดค่ายังชีพที่ตรงนี้ การเลือกทำผ้าม่านแบบเย็บเองทำให้เราสามารถเก็บจำนวน Option สำหรับเพื่อการเลือกเนื้อผ้าอย่างเดิม รวมทั้งยังได้ผ้าม่านที่มีขนาดพอดีเป๊ะกับหน้าต่างประตูบ้านอีก เนื่องจากเราสามารถทำผ้าม่านตามขนาดสิ่งที่จำเป็นได้
ในการตัดเย็บผ้าม่าน DIY เว้นเสียแต่ได้มัธยัสถ์ทั้งเงินแล้ว เรายังได้เลือกทำผ้าม่านสไตล์เก๋ไม่มีใครเหมือนอีก เพราะส่วนใหญ่ร้านผ้าม่านต่างๆก็จะมีแบบผ้าม่านที่ให้เลือกตัด เป็น ม่านจีบ ม่านคอกระเช้า ม่านตาไก่ ม่านพับ ม่านหฝ่าส์ อื่นๆอีกมากมาย แม้กระนั้นการตัดเย็บผ้าม่านแบบเย็บเอง เราสามารถตัดเย็บผ้าม่านในสไตล์พื้นที่ร้านผ้าม่านปกติไม่ได้รับทำ สมัยนี้การออกแบบแล้วก็ประดิษฐ์ข้าวของเครื่องใช้เองเป็นสิ่งอินเทร็นด์มากๆเว้นแต่ว่าผ้าม่าน DIY แล้วยังมีเครื่องใช้ “DIY” อีกหลายชนิดดังเช่น กระเป๋า DIY เสื้อผ้า DIY ผ้าปูโต๊ะ DIY เครื่องประดับบ้าน DIY อื่นๆอีกมากมาย การที่เลือกประดิษฐ์เครื่องใช้ในแบบ DIY เป็นหนทางที่เหมาะสมกับผู้ที่ถูกอกถูกใจความสร้างสรรค์ อยากได้อะไรที่ไม่เหมือนกันออกไปจากบุคคลอื่น เพื่อสิ่งที่เป็นของเราเป็นเอกลักษณ์ (Unique) ดูเก๋ สวย งาม การออกแบบผ้าม่าน DIY ก็เช่นกัน เราปรารถนาเลือกที่จะตัดผ้าม่านสไตล์ไหนตัวอย่างใดก็ได้ ตัวอย่างเช่น ตัดผ้าเก๋ๆมาเสริมเติมริมผ้าม่าน ต่อปลายผ้าม่านด้วยลูกฟุตบอลล์กลมเล็กๆเสริมริบบอนด้านบนผ้าม่าน เสริมผ้าม่านหฝ่าส์อีกชั้น เสริมหลอดไฟไปกับผ้าม่าน อื่นๆอีกมากมาย เราอาจเลือกออกแบบผ้าม่านที่จะทำให้ห้องของเรามองดูเด่น มีเสน่ เป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนความเป็นพวกพวกเราในทุกแง่มุม หรืออาจวางแบบผ้าม่านให้เปลี่ยนบรรยากาศของห้องให้สดใสแจ่มใสมากขึ้น เราสามารถตัดเย็บผ้าม่านโปร่งในธีมโรแมนติกหวานๆให้สะท้อนถึงความรักที่ซ้อนอยู่ในตัวเรา การตัดเย็บผ้าม่าน สามารถทำในแบบไหนก็ได้ อยากตัดม่านในธีมเยี่ยมเลิศหรู ธีมวินเทจ ธีมลายดอกไม้ธรรมชาติ อื่นๆอีกมากมาย การออกแบบผ้าม่าน DIY อยู่ที่ความสร้างสรรค์ของเรา ไม่มีจำกัด
การที่เราเลือกซื้อผ้าไปทำผ้าม่านเองจะทำให้เราได้รับผลตอบแทนของการมีทางเลือกมากมายก่ายกองในจำพวกเนื้อผ้า (Texture) ผ้าตัดเย็บม่านมีหลายประเภทแล้วหลังจากนั้นก็แต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ผ้าฝ้ายจะมีเนื้อครึ้มที่สามารถใช้ทำผ้าม่านก้าวหน้าถึงแม้ว่าจะยับง่ายดายเสียยิ่งกว่าผ้าในแบบชนิดอื่นๆเวลาซักผ้าม่าน เนื้อผ้าฝ้ายจะหดมากกว่า ด้วยเหตุนี้เราควรซื้อผ้าแบบต้องเผื่อนิดหนึ่ง จุดเด่นของผ้าประเภทนี้เป็นเป็นผ้าที่ไม่เก็บความร้อน แต่ในการที่เป็นชนิดผ้าที่จับฝุ่นง่าย ทำให้เราจึงควรซักผ้าม่านหลายที ถ้าหากเราอยากได้ตัดเย็บผ้าม่านด้วยผ้าชนิดที่ไม่จับฝุ่น ควรที่จะเลือกผ้าเนื้อใยสังเคราะห์ (Polyester) ผ้าซาติน หรือ ผ้าแจ็คการ์ด ผ้าพวกกลุ่มนี้จะไม่เการะผง ไม่ยับง่าย ทำให้การทำความสะอาดผ้าม่านง่ายมากกว่าเก่า
ส่วนเนื้อผ้ากำมาหยี่ก็เหมาะสมกับการตัดเย็บม่าน โดยเฉพาะผ้าที่มีเนื้อหนาแน่นรวมทั้งหนัก ผ้าเนื้อนี้เพิ่มเสน่ให้กับบริเวณใบหน้าของห้องได้ดีเยี่ยมเนื่องจากเป็นเนื้อผ้าที่เงาแวววาว ชาวต่างชาติชอบใจพูดว่าผ้าเนื้อผ้าผ้ากำมะหยี่ (Velvet) เป็นผ้าที่เหมาะสมกับทำผ้าม่านธีมกษัตริย์ (Royalty Theme) ผ้าชนิดนี้เป็นผ้าที่มีเนื้อจางดูเด่นสวยทีเดียว ผ้าที่มีเนื้อครึ้มไม่ได้มีไว้เพื่อทิ้งตัวดีอย่างเดียวแต่เพื่อช่วยสำหรับเพื่อการร้องไห้แดดที่เข้ามาในบ้าน ผ้าม่านสีแก่จะร้องไห้แดดได้ดียิ่งไปกว่าผ้าม่านสีอ่อน แต่ผ้าม่านสีอ่อนจะทำให้พื้นที่ห้องมองดูแจ่มใส เตียนสบายตา
จากสำเพ็งสู่ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส และอเมริกา
“ที่บ้านเรามีธุรกิจผ้าเปิดมา 30-40 ปีแล้ว ทำหน้าที่เป็นคนกลางสั่งโรงงานทอผ้าแล้วเอามาขาย” ออยเล่าถึงจุดเริ่มต้นของพวกเขาให้เราฟัง
เช่นเดียวกับร้านขายส่งผ้าบ้านใกล้เรือนเคียง ธุรกิจของพวกเขาคือการขายส่งผ้าล็อตใหญ่ให้แบรนด์เสื้อผ้า แต่เมื่อแบรนด์ใหญ่ต่างประเทศเริ่มตีตลาดในไทยได้ ลูกค้าของพวกเขาก็ได้รับผลกระทบ นำมาสู่การซื้อผ้าที่น้อยลง ร้านผ้าม้วนใกล้ฉัน
“เราว่าเอฟเฟกต์หลักคือแบรนด์ออนไลน์” เอ็มผู้เป็นน้องชายเสริมขึ้น “ลูกค้าเก่าเราคือลูกค้าแบรนด์ที่ขายในห้าง พอการขายออนไลน์เกิดขึ้นทุกอย่างในห้างตายหมด เพราะผู้ผลิตออนไลน์ใช้ผ้าดี คุณภาพตัดเย็บดีกว่าหรือพอๆ กับในห้างมาขายในราคาที่ถูกกว่าทำให้แบรนด์ในห้างจบเลย”
โชคดีที่ในขณะที่ลูกค้าเก่าเริ่มหายไป 3 ปีที่แล้วโอกาสใหม่ก็เดินทางเข้ามา และเป็นจุดเริ่มต้นของ J Fabric ในปัจจุบัน
“ตอนนั้นมีลูกค้าของเราชวนไปพบผู้ผลิตผ้าชาวญี่ปุ่นที่กำลังหาตัวแทนจำหน่ายในไทย พอไปพบเราก็ได้รับผ้าคอลเลกชั่นหนึ่งให้มาลองเปิดตลาดในประเทศไทย ปรากฏว่าขายได้ มีผลตอบรับที่ดี แต่เราเริ่มรู้สึกว่าเรารับมาขายแบรนด์เดียวมันไม่เพียงพอ เราก็ตามหาต่อ เป็นที่มาของการบินไปเลือกผ้าเองที่ญี่ปุ่น เริ่มไปเกาหลี ไปเดินงานแฟร์ผ้าที่ต่างประเทศ เหมือนเราติดลมในการหาแบรนด์ใหม่ๆ มาเติมเรื่อยๆ”
ออยเล่าว่า แรกเริ่มพวกเขาขายทางออนไลน์เป็นหลัก แต่เพราะผ้าที่พวกเขาขายเป็นผ้าคุณภาพดีจากญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส และอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่ามีราคาสูงกว่าผ้าในตลาดทั่วไปทำให้ลูกค้าอยากเดินทางมาดูผ้าก่อนตัดสินใจซื้อ แต่หน้าร้านเก่าของพวกเขาซึ่งเคยเป็นร้านขายส่งมาก่อนก็ไม่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้เอาเสียเลย winbet8666
“แต่ก่อนเราเป็นร้านขายส่ง ข้างล่างเป็นโกดัง เราก็ทำโชว์รูมผ้าต่างประเทศบนชั้น 2 ไม่ได้ตกแต่งเยอะ มีโต๊ะตรงกลางห้องแล้วก็วางผ้าโชว์ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะมาโดยการนัด เพราะว่าร้านหายาก ทุกคนก็จะโทรมาถามทางก่อน บางคนก็หลงทาง มาด่าเราในเพจก็มี พอมาถึงเราพาเขาขึ้นไปดูผ้าแล้วก็ต้องนั่งรอเขา บางคนก็เครียดจนไม่ซื้อเลย (หัวเราะ)”
นั่นจึงเป็นที่มาของการย้ายร้านออกมาอยู่ติดถนนจักรวรรดิเพื่อให้ลูกค้าหาร้านได้ง่าย รวมถึงพวกเขายังทำร้านให้กว้างขวาง มีสเปซสำหรับให้คนที่มาด้วยได้นั่งรอ มีโต๊ะให้นั่งเลือกผ้า และสร้างบรรยากาศสบายๆ ไม่กดดันเหมือนร้านเก่าอีกต่อไป
ผ้าต่างประเทศที่ตรงใจคนไทย
เพียงกวาดตามองผ้ารอบๆ ห้องโชว์รูม เราก็พบว่าพวกเขามีผ้าจากสี่ประเทศ ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส และอเมริกา ละลานตาจนเราต้องขอให้เอ็มช่วยอธิบายว่าผ้าแต่ละประเทศแตกต่างกันอย่างไร
เขาชี้ไปที่ผ้าญี่ปุ่นซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ J Fabric
“ผ้าญี่ปุ่นที่เราขาย หลักๆ มีสองแบรนด์คือ Lecien กับ Kokka แบรนด์ Lecien จะค่อนข้างมีชื่อเสียงในประเทศไทย ลูกค้าที่ชอบทำงาน quilt จะรู้จัก Lecien เหมือนเรารู้จักกระเป๋าแบรนด์เนมนั่นแหละ ส่วน Kokka เป็นแบรนด์ดังอีกแบรนด์ของญี่ปุ่น มีดีไซเนอร์ออกแบบผ้าแต่ละคอลเลกชั่น มีเรื่องราว เช่น คอลเลกชั่นนี้ดีไซเนอร์ได้แรงบันดาลใจมาจากสีสันดอกไม้ที่ฮาวาย ซึ่งคนที่สะสมผ้า เล่นผ้าเขามักจะซื้อกลับมาจากญี่ปุ่นมาขายเป็นจำนวนน้อย แต่คนที่นำเข้ามาขายในไทยมีแค่ที่เราที่เดียว”