lightyear (2022) บัซ ไลท์เยียร์ จะพาคุณเริ่มเดินทางสู่กาแล็กซีอันแสนแสนกว้างขวางภายหลังเขาแล้วก็กลุ่มถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ที่ดาวพระเคราะห์ร้าง ห่างจากโลกไป 4.2 ล้านปีแสง บัซ ไลท์เยียร์ก็เลยบากบั่นหาวิธีเดินทางกลับสู่โลก โดยได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูลจากหุ่นยนต์แมวเหมียวคู่ใจอย่าง ซ็อกส์ แม้กระนั้นภารกิจของเขากลับสลับซับซ้อนแล้วก็ยากยิ่งกว่าเดิมเมื่อ เซิกร์เผยตัว พร้อมแนวทางลับ และก็กองทัพหุ่นยนต์สุดร้ายกาจ
เรื่องราวเริ่มจากวู้ดดี้ที่เป็นของเล่นชิ้นโปรดอันดับแรกๆในใจของแอนดี้ตลอดมาจำต้องพบกับความไม่มั่นคง เมื่อ บัซ ไลท์เยียร์ ของขวัญวันเกิดชิ้นใหม่ที่แอนดี้ได้รับ เปลี่ยนมาเป็นของเล่นชิ้นโปรด บัซ เป็นหุ่นยนต์วีรบุรุษผู้รักษาความเที่ยงธรรมที่อวกาศ ติดอาวุธครบถ้วนอีกทั้งเลเซอร์ วิชาป้องกันตัวแบบคาราเต้ รวมทั้งปีกแอโรไดนามิกที่กางออกได้ นำมาซึ่งการทำให้วู้ดดี้กำเนิดความอกน้อยใจแล้วก็กลัวว่าบัซจะมาแย่งความรักไป
ดูหนังออนไลน์ lightyear (2022) บัซ ไลท์เยียร์
เนื่องจากเค้าเป็นเพียงแค่ของเด็กเล่นปกติเพียงแค่นั้น วู้ดดี้ก็เลยคิดแผนที่จะกำจัด บัซ ไลท์เยียร์ แม้กระนั้นและก็เกิดเหตุการณ์บางสิ่งขึ้นที่ทำให้ทั้งสองเปลี่ยนมาเป็นเพื่อนซี้ในใจของผู้ชมไปชั่วกับชั่วกัลป์ในคราวนี้ Disney & Pixar’s Lightyear บัซ ไลท์เยียร์ กลับมาอีกทีในลักษณะของภาพยนตร์ Sci-fi Action เสี่ยงอันตรายเพื่อเล่าราวในอดีตกาลที่ไม่เคยมีใครกันแน่เคยรู้มาก่อนของบัซ ไลท์เยียร์ ในแบบอย่างที่ไม่ใช่ของเล่นเด็กอย่างที่ผู้ชมรู้จัก แต่ว่าเป็นหน้าที่นักบินอวกาศผู้มีความตั้งใจจริงและก็จงรักในอาชีพนักบินอวกาศ ภายหลังที่จะต้องติดอยู่บนดาวพระเคราะห์ร้างที่ห่างไกลจากโลกถึง 4.2 ล้านปีแสง
บัซแล้วก็กลุ่มก็เลยได้รีบปรับปรุงยานอวกาศและก็ขั้นตอนการต่างๆเพื่อพาทุกคนกลับสู่โลก วันหนึ่งตอนที่เขากำลังทดลองยานอวกาศลำใหม่ เกิดเหตุบกพร่องขึ้นทำให้บัซและก็ซ็อกส์ (Sox) หุ่นยนต์แมวคู่ใจ ไปตกยังดาวปัญหาแห่งหนึ่ง ในขณะบัซอุตสาหะหาทางเอาชีวิตรอดรวมทั้งพาตนเองออกมาจากดาวที่นั้น เขาจำเป็นต้องเพชิญกับกองทัพหุ่นยนต์เอเลี่ยนเซิร์ก ที่แสนทารุณไร้มนุษยธรรม แม้กระนั้นในความโชคร้าย ยังมีความมีโชคเมื่อบัซได้เจอกับเพื่อนพ้องใหม่ ที่จะร่วมเสี่ยงอันตรายไปพร้อมกับเขา
The Little Mermaid นางเงือกน้อยเสี่ยงอันตรายมาถึงคิวของหนังไลฟ์แอคชั่น lightyear (2022) บัซ ไลท์เยียร์ จากเทพนิยายสุดคลาสสิกจากวอลต์ ดิสนีย์ ที่ทั่วทั้งโลกต่างรอคอยรอกันมาแสนนาน เพราะว่านี่เป็น “The Little Mermaid นางเงือกน้อยเผชิญภัย” ตำนานนางเงือกน้อยที่เป็นการท้า มากมายๆในงานสร้างในต้นแบบคนแสดง เนื่องจากว่าจะต้องใช้วิธีพิเศษต่างๆมากสำหรับการสร้างโลกใต้แผ่นน้ำ ถึงแม้พวกเราจะได้ยินข่าวคราวคำดูถูกเกี่ยวกับหนังหัวข้อนี้แบบต่อเนื่อง แต่ว่าผลที่ออกมานั้น..จะลบคำปรามาสพวกนั้นได้หรือเปล่านะ?
The Little Mermaid นางเงือกน้อยเผชิญภัย เกิดเรื่องราวของ แอเรียล ลูกสาวของราชาไทรตันที่โลกใต้มหาสมุทร ชีวิตของคุณจำเป็นต้องอยู่ใต้คำสั่งจากบิดา ถึงแม้คุณใฝ่ฝันต้องการจะเป็นมนุษย์เดินดินแล้วก็หลงเสน่ห์พระราชโอรสอีริค จนถึงยอมแลกเปลี่ยนเสียงของคุณเพื่อรับมนตร์ให้เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ 3 วัน แล้วก็ทำภารกิจเพื่อพระราชโอรสจูบรักจริงกับคุณให้ได้ แต่ว่ามันก็แลกเปลี่ยนมาด้วยความเจ็บที่สะเทือนขวัญมากกว่าจะการหลั่งน้ำตา
โดยในหนังฉบับนี้ก็ได้ผู้กำกับดีกรีรางวัลออสการ์แล้ว บัสไรเยียร์ หนัง ก็ตัวบิดาหนังมิวสิคัล อย่าง “ร็อบ มาร์แชล” มานั่งเก้าอี้ดูแลงานสร้าง ที่นับว่าเก็บเนื้อหาต่างๆเกี่ยวกับความเป็นแฟนตาซีแล้วก็มิวสิคัลได้อย่างถูกใจ ถึงแม้ยังมีอีกหลายส่วนประกอบที่หนังประเด็นนี้ยังทำเป็นขาดๆเกินๆแล้วก็มอบรสออกมาที่ยังไม่กลมกล่อมละมุนละไมสักเท่าไหร่นัก แต่ว่ามันก็ไม่ใช่หนังที่เสื่อมโทรมอะไรเลยเช่นเดียวกัน
จากที่เกริ่นไปข้างต้นนั้นว่า The Little Mermaid ที่เปลี่ยนมาเป็นฉบับไลฟ์แอคชั่นนั้น ความท้าอยู่ที่งานโปรดักชั่นโดยแท้จริง เพราะเหตุว่าการออกแบบโลกใต้ท้องมหาสมุทรที่นับได้ว่าเป็นฉากไฮไลต์สำคัญๆแทบมากยิ่งกว่า 60% ของหัวข้อนี้เป็นงานที่ยากไม่น้อย ไมว่าจะเป็นเนื้อหาการเคลือนไหวของนักแสดง ไปจนกระทั่งการแสดงใต้น้ำกับนักแสดงแอนิเมชั่น ทุกๆซีนมีความยากในระดับที่ไม่เหมือนกันออกไป แต่ว่าหนังก็จัดว่าพากเพียรเก็บเนื้อหาต่างๆเอาไว้ได้ดิบได้ดีที่สุด ถึงมันจะยังมิได้เพอร์เฟ็ครวมทั้งคมมากอะไรขนาดนั้น
จำต้องเห็นด้วยว่าโลกใต้มหาสมุทรในหนัง The Little Mermaid เวอร์ชั่นนี้ คละเคล้าไปด้วยความสมจริงสมจังรวมทั้งความแปลกพร้อมๆกันอย่างน่าปะหลาดใจ หลายๆฉากสร้างความตื่นตาตื่นใจได้ดิบได้ดี แต่ว่าก็ยังมีอีกหลายๆฉากที่มีความรู้สึกว่าซ้ำไปซ้ำมา และก็ไปสู่สูตรสำเร็จเดิมๆที่พวกเราเคยได้เห็นส่วนประกอบอะไรแบบงี้ในหนังดิสนีย์เรื่องก่อนๆมาแล้ว ทั้งยังเนื้อหาที่ใส่เข้ามาประกอบผู้แสดงต่างๆก็ยังมองไม่ค่อยสมจริงสมจังที่สุด
เป็นการใส่ซีจีที่ราวกับชี้ให้เห็นว่าเป็นซีจี ยังไม่ถึงจุดที่ทำให้ขัดใจแม้กระนั้นก็แบบตะหงิดจิตใจได้อยู่บางส่วนในตอนที่งานวางแบบฉากต่างๆบนโลกเหนือท้องน้ำนั้น ก็เต็มไปด้วยส่วนประกอบซ้ำเดิมจากที่พวกเราพบเห็นในหนังไลฟ์แอคชั่นของดิสนีย์มาก่อนเหมือนกัน แทบไม่มีอะไรใหม่ แม้กระนั้นแอบสารภาพอย่างไม่อ้อมค้อมเลยว่า The Little Mermaid เวอร์ชั่นนี้กลายเป็นว่าเรื่องราวแล้วก็เรื่องต่างๆบนบกนั้น กลับมองได้รื้นเริงมากยิ่งกว่าสตอปรี่ใต้ท้องมหาสมุทรเสียอีก
หากว่า The Little Mermaid จะรักษาและก็นับถือต้นฉบับในส่วนของพล็อตเรื่องมาเกือบจะเป๊ะๆเลย แม้กระนั้นเมื่อเอามาเล่าในต้นแบบคนแสดงแล้วนั้น มันกลับมองเป็นเทพนิยายที่เห่อเหิมเกินกำลังไปนิดหน่อย บางทีก็อาจจะเพราะว่าจริตความเป็นเจ้าฟ้าหญิง ความฝันเฟื่องสำหรับในการตกหลุมรักพระราชโอรส สูตรสำเร็จเดิมๆที่อีกทั้งเชยรวมทั้งทั้งยังเชยไปแล้ว ยังถูกใส่เข้ามาในหัวข้อนี้เพียงแต่อยากได้รักษาอรรถรสของต้นฉบับ ที่โชคร้ายไปหน่อย
เนื่องจากว่าบางเวลามันก็มิได้เวิร์กกับหนังเท่าไรมาถึงด้านกลุ่มผู้แสดงกันบ้าง lightyear (2022) บัซ ไลท์เยียร์ ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่า “ฮัลลี เบลีย์” ถ่ายทอดหน้าที่ของคุณออกมาได้ออกจะน่าพึงพอใจ เก็บเนื้อหาและก็โปรยปรายอินเนอร์ความเป็นแอเรียลออกมาใช้ได้ ท่ามกลางแรงกดดันไม่น้อย ด้วยเหตุว่าคุณก็เป็นผู้ที่ถูกกระแสสังคมต้านทานแล้วก็ดูหมิ่นมาตั้งแต่เริ่ม แม้กระนั้นก็ยังแอบเสียดายไม่น้อย ด้วยเหตุว่าในตอนท้ายก็เป็นเพียงแค่บทเจ้าฟ้าหญิงเชยๆที่ใสซื่อโบราณเหลือเกิน ทำให้การเติมเสน่ห์ให้กับผู้แสดงนี้ยังมองหายไปอย่างที่ควรเป็น
The Legend & Butterfly
มาเสนอแนะหนังฟอร์มใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นสักนิด ประเด็นนี้เพิ่งจะลงโรงฉายไปเมื่อตอนปีใหม่ 2023 ก่อนหน้านี้ในประเทศญี่ปุ่น นี่เป็น “The Legend & Butterfly” ที่เป็นการโคจรมาพ่นไฟทางการแสดงด้วยกันของ 2 ซุปตาร์ประเทศญี่ปุ่น “ทาคุยะ คิมูระ” กับ “ฮารุกะ อายาเสะ” ที่มองเห็นเพียงแค่ชื่อกลุ่มดาราหนังรวมทั้งผู้ผลิตก็จำต้องมุ่งมาดสูงเสียแล้ว หากว่าหนังแนวนี้จากประเทศญี่ปุ่นจะไม่ค่อยเป็นที่ชินตาของชาวไทยเท่าใด แต่ว่าเมื่อลองเปิดใจสัมผัสมอง ก็จะพบว่า…
The Legend & Butterfly เกิดเรื่องราวในตอนศตวรรษที่ 16 โนบุนางะ โอดะ แม่ทัพอันโด่งดังดินแดนอาทิตย์อุทัย กับนิสัยรักสนุกและไม่เอาไหน เขามีสมญานามว่า ‘ไอ้งั่งที่โอวาริ’ รวมทั้งโดนจับสมรสกับ โนฮิเมะ ด้วยเหตุผลด้านการเมือง แรกเจอทั้งสองไม่ถูกกันเลย ซ้ำยังมีนิสัยที่ไม่เหมือนกันสุดขีด จนถึง โยชิโมโตะ อิมากาวะ ได้ยกกองทัพมาโจมตีเมืองที่เขาดูแลอยู่ แต่ว่าเนื่องจากกองทัพปริมาณมากมายก่ายกองไม่สามารถที่จะต่อต้านได้ โนบุนางะโกรธ แม้กระนั้นมีเพียงแค่โนฮิเมะที่เป็นอันมากดวงใจรวมทั้งให้คำปรึกษา ทำให้เขาไม่เพิ่งจะหดหู่และก็นำไปประยุกต์เป็นอุบายการรบคืนกลับกองทัพของศัตรู ด้วยหวังจะรวมแผ่นดินให้มั่นคงรวมทั้งยิ่งใหญ่
นี่เป็นผลงานการผลิตสรรค์ของผู้กำกับมีชื่อ “เคอิชิ โอโตโมะ” จากเฟรนไชส์หนังซามูไรร่อนเร่ (Rurouni Kenshin) ทุกภาค แน่ๆว่าเขามีประสบการณ์มารับสิบปี ทั้งยังยังเคยเด่นงานการสร้างภาพยนตร์แนวไทกะมาด้วย ทำให้เขาทราบจังหวะแล้วก็มุมมองที่สมควรที่จะหยอดกับใส่อะไรที่เหมาะเหม็งเข้ามาในหนังหัวข้อนี้ เพียงแต่ว่ายังแอบเสียดายนิดๆตรงที่หนังขาดส่วนประกอบของความกระชับไปสักนิด เพราะว่านี่เปลี่ยนเป็นหนังเอพิคที่มีความยาวเกือบจะ 3 ชั่วโมง โดยที่แทบจะไม่มีอะไรขับออกมาเป็นจุดแข็งได้เลย
ในตอนที่บริษัทภาพยนตร์ A24 กำลังขึ้นหม้อในความจำผู้ชมทั่วๆไปกับการส่ง ‘Everything Everywhere All at Once’ (2022) ครอบครองรางวัลออสการ์ปีปัจจุบัน แม้กระนั้นพวกเราก็คงจะยังจะต้องวางหนังจากค่ายนี้อยู่ในจุดที่จะต้องเตรียมพร้อมหัวใจก่อนมองไว้ยกตัวอย่างเช่นเดิม โดยเฉพาะ ‘Beau is Afraid’ ได้ผลงานจากผู้กำกับ อาริ แอสเตอร์ (Ari Aster) ที่เคยฝากความสยดสยองสุดมืดมนเอาไว้ในช่วงกลางคืนที่ความผิดพลาดบาป ‘Hereditary’ (2018) แล้วก็ความสยดสยองกึ่งกลางทุ่งดอกไม้ใต้แสงตะวันเจิดจ้าใน ‘Midsommar’ (2019)
คนใดที่พอเพียงมีประสบการณ์กับหนังของแอสเตอร์ lightyear (2022) บัซ ไลท์เยียร์ อาจรู้ว่าจะปล่อยใจปลดปล่อยหน้าจอยกับหนังของเขามิได้เลยเดิมแอสเตอร์เคยทำหนังสั้นชื่อ ‘Beau’ (2011) เล่าของชายผิวดำกลางคน (เล่นบทโดย ใบเสร็จรับเงินลี มาโย (Billy Mayo)) ที่จะออกมาจากบ้านขึ้นเครื่องไปพบแม่ แต่ว่าปรากฏว่ากุญแจบ้านกับกระเป๋าที่มีไว้ใส่ของเมื่อเดินทางกำเนิดถูกลักขโมยไป ทำให้เขาไม่บางทีอาจทิ้งบ้านไว้ได้ แล้วก็ความหนักใจที่บ้านของเขาไม่อาจจะปิดประตูล็อกก็ทำให้เขาเริ่มสงสัยจนกระทั่งมองเห็นรวมทั้งได้ยินอะไรแปลกๆหลายชนิดได้แก่คนที่ไม่รู้จักที่มาก่นด่าทอหน้าบ้าน ตัวประหลาดเหมือนหนูในครัว รวมทั้งอื่นๆกระทั่งเขาจำต้องมาอยู่เฝ้าหน้าประตูบ้านไว้และไม่กล้าหลับ
ในส่วนท้ายของเรื่องสั้นนี้บอกใบ้ว่าแม่ที่พวกเราไม่เคยมองเห็นหน้าของโบนี้เองบางทีอาจเป็นอสูรกายที่เป็นสาเหตุของความหวาดกลัวทั้งปวง ซึ่งก็จบแบบปลายเปิดมิได้เฉลยคำตอบอย่างแจ่มแจ้ง แล้วก็หลายๆคนก็คาดว่าหนังสั้นหัวข้อนี้บางทีอาจส่งอิทธิพลมาเป็นหนังยาวเรื่องปัจจุบันของเขาด้วย ซึ่งหลายส่วนประกอบหรือมุกที่หนัง ‘Beau Is Afraid’ ใช้ ก็บางทีอาจกล่าวได้จริงๆล่ะว่ามันเป็นหนังเนื้อเดียวกันในด้านหนึ่ง
ในขณะที่หนังสั้นเล่าความหวาดกลัวของคนดำคนหนึ่ง หนังยาวก็เล่าความหวาดกลัวของคนยิวที่ผ่านแรงกดดันแล้วก็กรอบปฏิบัติที่สร้างร่างเนื้อความตื่นตระหนกกลัวในชีวิตขึ้นมาอย่างที่ไม่เหมือนกับคนวัฒนธรรมอื่น เป็นต้นว่า ความรู้สึกเชิงอดีตกาลที่เป็นชนเผ่าที่ถูกไล่ที่รวมทั้งหวนหากาเกลื่อนกลาดลับคืนบ้าน ความร้ายแรงหนแรกในชีวิตจากการขลิบปลายของลับ ภาระหน้าที่ความรู้บุญคุณคนที่จำต้องฝังร่างสมาชิกในครอบครัวด้านในหนึ่งวัน รวมทั้งแรงกดดันต่อสายตาด้ามจับจ้องมองแล้วก็ปรักปรำคุ้นเคยของชุมชนชาวยิว
The Boogeyman เดอะ บูกี้แมน
นี่บางครั้งก็อาจจะยอดเยี่ยมในตำนานผีปรำปราของฝั่งอเมริกา ที่พวกเราบางทีอาจจะเคยรับรู้ได้สัมผัสกับมาบ้าง เพราะว่าที่มันดังได้ก็มาจากเจ้าพ่อนิยายสยดสยอง “สตีเวน คิง” เอามาร้อยเรียงสร้างเกิดเรื่องราวให้เชิญชวนหลอน เปลี่ยนออกมาเป็น “The Boogeyman” ที่ฉบับนี้อิงมาจากงานประพันธ์สุดคลาสสิกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่จะมาเปิดทางตำนานผีตู้ที่มีไว้สำหรับใส่เสื้อผ้าที่ฝรั่งกลัวนักหนา แม้กระนั้นความหลอนเฮี้ยน..จะทำเป็นถึงกับขนาดนั้นหรือเปล่า?
นี่เป็นเรื่องราวของ ซาดี้ ฮาร์เปอร์ เด็กนักเรียนผู้หญิงวัยมัธยมศึกษาตอนปลายแล้วก็ ซอว์เยอร์ น้องสาวของคุณ ที่ยังคงทำใจไม่ได้กับการสูญเสียแม่ทันทีทันใด และไม่ได้รับการช่วยเหลือเกื้อกูลที่ดีพอเพียงจาก วิล บิดาของพวกเขา ที่มีอาชีพเป็นนักจิตวิทยาบำบัดรักษา เพราะเหตุว่าตัวเขาเองก็ยังคงต่อกรกับความเจ็บของตนเองอยู่ วันหนึ่งมีคนเจ็บสุดสงสารโผล่มาที่บ้านเพื่ออ้อนวอน แต่ว่าแล้วคนป่วยคนนั้นก็ได้ทิ้งเรื่องราวเหนือธรรมชาติสุดน่ากลัวที่ทำให้ครอบครัวของพวกเขากลายเป็นเหยื่อของเรื่องลี้ลับ
บางทีก็อาจจะบอกได้หนังประเด็น lightyear (2022) บัซ ไลท์เยียร์ นี้ก็เป็นตามสูตรสำเร็จของชนิดหนังผีสุดสยดสยอง ที่ใช้บริการผู้กำกับดาวรุ่งมาหยั่งดูท่าทีถ่ายทอดความหลอนแบบเดิมๆที่พวกเราบางทีอาจจะเคยได้เห็นกันมาบ้างแล้ว “ร็อบ ซาเวจ” ที่่ผ่านงานดูแลซีรีส์และก็หนังสยดสยองทุนต่ำมาหลายเรื่อง เขาทราบแนวทางต่อกรกับหนังประเด็นนี้ดี ด้วยการผลิตบรรยากาศชักชวนหลอนแล้วก็สะพรึงกลัว ทั้งยังยังสามารถรักษาระดับงบประมาณของหนัง
เอาไว้ได้อย่างถูกใจกลุ่มประธานเลยล่ะไม่เคยรู้ว่าบุคคลอื่นจะคิดเช่นกันไหม quierocreedence แต่ว่าตลอดเวลาที่นั่งมอง The Boogeyman หัวข้อนี้ แอบรู้สึกและก็รำลึกถึงรสสัมผัสแบบที่เคยลิ้มรสมาแล้วในหนังดังแจ้งกำเนิดของผู้กำกับ เดวิด เอฟ. แซนด์เบิร์ก อย่าง “Lights Out” เมื่อไม่กี่ปีกลาย ที่มาในโทนคล้ายกัน รวมทั้งยังเป็นหนังผีทุนต่ำเช่นกัน จังหวะและก็บรรยากาศเชิญให้นึกถึงหัวข้อนั้น หากว่าความน่าสยดสยองเชิญหลอนะยังทำเป็นไม่ถึงมาตรฐานแบบที่ผีไฟดับทำเป็นก็ตาม
แต่ว่าขั้นต่ำๆThe Boogeyman ก็ปรับบทแล้วก็เล่าได้ร่วมยุคก้าวหน้า ก็ไม่วายทิ้งกลิ่นความเป็นนิยายของ สตีเวน คิง ที่ชอบเป็นข้อความสำคัญความเจ็บรวมทั้งดำตรงเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวของวัยรุ่นเข้ามาพันพัว ถึงจะเป็นพล็อตบ่อยๆกล้วยๆที่ทายใจทางได้ไม่ยาก ก็จำเป็นต้องสารภาพว่าหนังสร้างบรรยากาศชักชวนหลอนได้ดิบได้ดีอย่างยิ่ง ในขณะที่ผู้ชมจะได้มองเห็นเจ้าอสุรเพียงแค่วับแวบแว่บๆไม่จุใจเท่าใด