หนังออนไลน์18 หนังใหม่ 2023 6 เรื่อง! เตรียมตัวต่อคิวเข้าฉาย

หนังออนไลน์18

หนังออนไลน์18 รีวิวหนัง “Dungeons & Dragons: Honor Among Thieves” ผู้กู้แฟนตาซีที่ดีเกินเบอร์ไป น่าจะจำต้องเห็นด้วยอย่างไม่อ้อมค้อมเลยว่า..คราวแรกที่มองเห็นหน้าหนัง “Dungeons & Dragons: Honor Among Thieves” ออกมานั้น ความรู้สึกออกจะเรียบนิ่ง มิได้มีความระทึกใจรวมทั้งละลานตาอะไรก็แล้วแต่เนื่องจากมีความคิดว่าก็คงอีหรอบเดิมของหนังแฟนตาซีที่ในยุคนี้ค่อนข้างจะอยู่ในตอนจุดมืดบอดที่สุดแล้ว แม้กระนั้นทัศนคติต่อตัวหนังก็เริ่มแปรไปหน่อยๆเมื่อได้มองเห็นกระแสจากสื่อนอกที่ได้ได้โอกาสได้ดูหนังหัวข้อนี้เป็นกรุ๊ปแรกๆแล้วพอใช้ได้ได้โอกาสได้สัมผัสหนังประเด็นนี้ด้วยตาตนเองแล้ว…ทุกสิ่งทุกอย่างก็แจ้งชัด!

หนังออนไลน์18 รีวิวหนัง Dungeons & Dragons: Honor Among Thieves

Dungeons & Dragons: Honor Among Thieves ดันเจียนส์ & ดรากอนส์: ศักดิ์ศรีในกลุ่มมิจฉาชีพ เกี่ยวกับเรื่องราวของโจรแวววาวสเน่ห์แล้วก็กรุ๊ปนักผจญภัยที่ดูท่าจะไปไม่รอดได้ร่วมมือกันในภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่จะตามหาวัตถุโบราณที่หายไป แต่ทุกๆอย่างกลับไม่ถูกแผนรวมทั้งเปลี่ยนเป็นเรื่องอันตราย เมื่อพวกเขาไปมีปัญหากับใครสักคนเข้า แล้วก็พันพัวเข้ามามนตราบางอปิ้งที่เป็นภัย ดูหนังออนไลน์ฟรี

แล้วก็บางทีก็อาจจะจะต้องยอมรับสารภาพอีกอย่างเลยว่า ไม่เคยมีพื้นฐานอะไรก็แล้วแต่เกี่ยวกับเรื่องราวนี้ ไม่ว่าจะยุคเป็นเกมวางมายากลแผนจัดโต๊ะในตำนาน ซ้ำยังไม่เคยดูหนังหัวข้อนี้ในฉบับตรีภาคก่อนหน้านี้ ซึ่งเคยฉายไปเมื่อทศวรรษก่อนด้วย แต่ว่าเมื่อได้ยินว่าเวอร์ชั่นนี้จะเป็นหนังที่รีบูตแล้วก็รีเช็ตขึ้นมาใหม่ บนรากฐานองค์ประกอบเดิมของเกม ทั้งยังยังมิได้เชื่อมโยงอะไรก็แล้วแต่เกี่ยวกับหนังชุดก่อนด้วย แล้วก็ค่อยวางใจขึ้นน้อยที่ว่าจะได้ไม่ต้องทำการบ้านก่อนมองมากแค่ไหนนัก

นี่เป็นผลงานของ 2 ผู่ดูแล “จอห์น ฟรานซิส ดาลีย์” กับ “โจนาธาน โกลด์สตีน” ที่ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังร่วมเขียนบทหนังหัวข้อนี้ด้วย โดยมากพวกเราบางครั้งก็อาจจะรู้จักงานพวกเขาจากภาพยนตร์ตลกร้ายแล้วก็ตลกเสียมากกว่า นี่น่าจะเป็นจังหวะครั้งใหม่ที่ได้มาจับจับทำหนังแนวที่ไม่เหมือนกันกับเดิมๆด้วยแนวทางการทำหนังแฟนตาซีฟอร์มใหญ่ยักษ์ ที่บางครั้งก็อาจจะมองขัดๆกับความสามารถของพวกเขา แต่ว่าแปลงเป็นว่าสามารถทำออกมาได้ลงล็อกลงจังหวะได้ดีมากว่าที่คิดเอาไว้

ต้องการจะขออภัยที่เคยดูหมิ่นหนัง Dungeons & Dragons: Honor Among Thieves แล้วก็ประเมินคุณค่าหนังต่ำเหลือเกิน เพราะว่าผลสรุปที่ออกมานั้น จำต้องสารภาพเลยว่าหนังมีอรรถรสแล้วก็สร้างความรื่นเริงใจชั้นยอดได้ดีมากว่าที่มองดูเอาไว้ ถึงแม้พล็อตต่างๆจะค่อนข้างจะสูตรสำเร็จสไตล์หนังแฟนตาซี แม้กระนั้นยังมีส่วนประกอบอื่นๆที่มาช่วยเสริมแล้วก็เติมเต็มให้หนังกลมกล่อมละมุนละไมเพิ่มขึ้นๆในอย่างงี้สร้างความซาบซึ้งได้พอได้

รีวิวหนัง Dungeons & Dragons: Honor Among Thieves

นี่เป็นการละเลงไพ่ใหม่รวมทั้งช่วยชีวิตให้กับหนังแฟนตาซีหัวข้อนี้ออกมาได้อย่างมีชีวิตชีวิต ไม่เพียงเท่านั้นหนังสามารถปฏิบัติหน้าที่กู้หนังแนวแฟนตาซีของฮอลลิวูดยุคเดี๋ยวนี้ได้อีกด้วย ภายหลังที่หนังแนวนี้ออกจะล้มเหลวต่อเนื่องกันมายาวนานหลายปีต่อกัน บรรยากาศและก็โทนหนังก็ราวกับๆกับที่หลายข้างไดข้อกำหนดเอาไว้ว่ามันมีกลิ่นกับส่วนประกอบของ The Lord of the Rings คั่วความจริงจังขึ้นหน่อยแบบ Game of Thrones แม้กระนั้นก็ถือสเกลแบบ The Avengers มาใช้ในครั้งเดียวกัน

เสน่ห์ที่เด่นที่สุดของ Dungeons & Dragons: Honor Among Thieves ประเด็นนี้ คงจะจะต้องชูให้กลุ่มผู้แสดง กล่าวได้ว่าทำการบ้านและก็แคสติ้งออกมาได้อย่างน่าทึ่งในทุกๆนักแสดงอย่างยิ่งจริงๆ เพราะเหตุว่ามิได้เด่นเพียงแค่ลำพังผู้เดียว แม้กระนั้นเด่นเจริญแบบชูกลุ่ม เอามาโดย “คริส ไพน์” ที่ให้การแสดงแบบมือโปร ถ่ายทอดหน้าที่ของเขาราวการเชือกกล้วยเข้าปาก หยอดจังหวะและก็อารมณ์ต่างๆได้พอดีตลอดทั้งเรื่อง

ตรงเวลา 10 ปีอย่างยิ่งจริงๆ กับการได้มองเห็นหนังผู้เดียว Batman หนสุดท้ายใน The Dark Knight Rises (2012) แสดงโดย Christian Bale ของ Christopher Nolan ถึงแม้ว่าจะผลงานรวมกลุ่มใน Justice League (2017) ที่แสดงโดย Ben Affleck แต่ว่าก็ไม่ใช่หนังโดดเดี่ยวกางทแมนจริงๆอยู่ดี จนตราบเท่านี่แหละ การมาของ The Batman ฉบับ Robert Pattinson ผ่านผลงานการควบคุมของ Matt Reeves

Matt Reeves ได้บอกไว้ตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่าหนัง Batman ของเขาจะไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา หนังออนไลน์18

จะย้ำแนวสอบปากคำ ให้เสมือนความเป็น Batman ในคอมิกส์ต้นฉบับกับสมญานาม The World’s Greatest Detective หรือสายลับที่เก่งที่สุดในโลก ซึ่งถ้าผู้ใดกันแน่ที่ได้ติดตามนักแสดงนี้มาอีกทั้งในคอมิกส์หรือเกม จะมองเห็นได้ว่านอกจากการออกหมัดแล้วก็เท้าปราบผู้ร้ายในเมือง Gotham แล้ว สิ่งจำเป็นของผู้แสดงนี้เป็นการสอบสวนคดีต่างๆและก็โน่นเป็นไอเดียเริ่มต้นกับการนำมาสร้างเป็นหนังหัวข้อนี้ และก็เขาได้เลือกตัวร้ายอย่าง The Riddler (Paul Dano) ก็ยิ่งเหมาะสมกับการเดินเรื่องแนวสอบสวนอย่างมาก

นี่เป็นหนัง Batman ที่ไม่เหมือนกับหนังกางทแมนที่เคยทำมาฉบับไหนๆ

ทั้งมวล ด้วยเหตุว่านี่เป็นหนังอาชญากรรมสอบสวนเลย มีกลิ่นความเป็น Se7en (1995) อยู่ไม่น้อย ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของ Bruce Wayne ที่รับหน้าที่เป็นอัศวินกลางคืน Batman มาเป็นระยะเวลา 2 ปี รอสร้างความหวาดกลัวให้ผู้กระทำผิดกฎหมายเมือง Gotham จนถึงเขาจำต้องมาสืบคดีใหญ่ของฆาตกรโรคจิตนามว่า The Riddler (Paul Dano) เขาจำเป็นต้องแสวงหาความเป็นจริงร่วมกับ James Gordon (Jeffrey Wright) รวมทั้งมันนำพาเขาไปพบกับบุคคลเยอะมาก ทั้งยัง Selina Kyle (Zoë Kravitz), Oswald Cobblepo/The Penguin (Colin Farrell), Carmine Falcone (John Turturro) แล้วก็อีกเพียบเลย หนังออนไลน์18

จะต้องบอกก่อนว่าหนังเหมาะสมกับผู้ที่รู้จักดีและก็ติดตามกางทแมนมาบ้าง เพราะหนังจะไม่เล่าราวความเชื่อมโยงกับผู้แสดงอะไรก็แล้วแต่ไหมได้ย้อนภาพแฟลชแบ็กการตายของบิดามารดา Bruce Wayne ให้มองเห็นอะไร รวมทั้งนักแสดงโอบล้อมต่างๆที่ถ้าหากไม่ใช่แฟนบางทีอาจจะไม่อินและไม่เข้าถึงความเกี่ยวเนื่องต่างๆสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นมันก็มิได้ถึงกับจะมีผลให้มองไม่รู้เรื่อง แต่ว่าถ้าเกิดติดตามเรื่องราวของกางทแมนมาบ้างก็จะมองบันเทิงใจเยอะขึ้น

หนังมีความ Slow Burn กับความยาวแทบ 3 ชั่วโมง เบาๆเล่าอย่างช้าๆละเมียด ผ่านปัญหาการไขคดีของ Batman ซึ่งในพาร์ทการไขคดีมันก็มิได้สลับซับซ้อนหรือซีเรียสสักเท่าไหร่ จริงๆมันคงจะไปได้สุดทางกว่านี้ มันแทรกสอดการแอ็คชันเป็นช่วงๆแล้วก็แต่ละฉากแอ็คชันก็ดุเด็ดเผ็ดมัน ดิบ โหดร้าย ร้ายแรงใช่เล่น แม้กระนั้นแม้กระนั้นมันก็มิได้ทำให้หนังน่ารำคาญอะไร ถึงแม้ว่าพวกเราจะรู้สึกตัวคนร้ายตั้งแต่ต้นแล้วว่าเป็น The Riddler ความเพลิดเพลินมันก็เลยไม่ใช่ความเป็น Whodunit การตามหาตัวคนร้าย แม้กระนั้นมันเป็นเรื่องการแสวงหาบางสิ่งที่ตัวคนร้ายอยากนั่นแหละ ตัวหนังตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบมันก็เลยมีความกระจ่าง แน่แน่ว ไม่ออกนอกทางนอกทา ตรงประเด็นแล้วก็เล่นเรื่องพวกนั้นได้ดิบได้ดี แอบเสียดายว่าถ้าหากหนังเป็นเรท R ไม่ใช่ PG-13 มันบางครั้งก็อาจจะยกฐานะอะไรหลายๆอย่างสำหรับการเล่าได้มากขึ้นแน่นอน

หนัง Moonfall หรือชื่อไทยว่า วันวอดวาย จันทร์กระหน่ำโลก โรแลนด์ เอ็มเมอริค เจ้าพ่อหนังหายนะภัยพินาศผู้ผลิต Independence Day , The Day After Tomorrow, 2012 กับการกลับมาใน Moonfall เป็นหนังภัยอันตรายที่เกิดขึ้นมาจากพระจันทร์ที่วงวัวรของมันกำลังจะพุ่งเข้าพบโลก โดยมีนักบินอวกาศแล้วก็นักทฤษฎีวิทยาศาสตร์ช่วยเหลือกันหาวิธียับยั้งการพุ่งชนในคราวนี้ ซึ่งพวกเขามีเวลาไม่กี่อาทิตย์เพียงแค่นั้นเพื่อไม่ให้มันล้างผลาญโลก

การกลับมากำกับหนังของ Roland Emmerich เจ้าพ่อหนังเภทภัยหายนะล้างโลก ที่เคยฝากผลงานหนังเภทภัยเอาไว้เยอะแยะ อีกทั้ง Independence Day (1996), The Day After Tomorrow (2004), 2012 (2009) รวมทั้งหนังแนวอื่นๆต้องการ Godzilla (1998), The Patriot (2000), White House Down (2013), Midway (2019) ซึ่งโอกาสนี้เค้าก็กลับมาทำหนังภัยอีกรอบ หนัง High-concept Big Idea อย่าง Moonfall

กับเรื่องราวที่เล่าถึงพระจันทร์ที่วิถีการโคจรแปรไปแล้วก็มันกำลังจะพุ่งเข้าชนโลก เหล่านักวิทยาศาสตร์ นักบินอวกาศ นักทฤษฏี ก็เลยต้องหาทางสกัดกั้นหายนะในคราวนี้ก่อนจะสายเกินความจำเป็น รวมทั้งทำให้พวกเขารู้เรื่องราวที่ปกปิดไว้เป็นความลับของสิ่งมีชีวิตลึกลับบนพระจันทร์

นี่น่าจะเป็นหนังของ Roland Emmerich ที่พวกเราถูกใจต่ำที่สุดแล้วจากทั้งปวงที่เคยมองมา มันมีความเป็นหนังภัยพินาศเอาชีวิตรอด รวมทั้งเป็นหนัง Sci-fi High-concept ที่ไปไม่สุดสักทางเลย ความเป็น Big Idea ไม่ใช่ปัญหาของหนังหัวข้อนี้ เนื่องจากว่าปัญหามันอยู่ที่กรรมวิธีเสนอ เล่นเกมส์ได้เงินจริง ในทางของความเป็นหนังภัยอันตราย หายนะที่เกิดขึ้นน้อยมากหากเปรียบเทียบรูปร่างกับหนังเรื่องก่อนๆอย่าง 2012 หรือ The Day After Tomorrow แถมการเอาตัวรอดก็จะไม่ค่อยมีฉากให้ลุ้นหรือตื่นเต้นสักเท่าไหร่ เป็นมีนะแม้กระนั้นน้อยมากจริงๆส่วนทางด้านความเป็น Sci-fi เรื่องราวความลับของพระจันทร์ก็น่าดึงดูดเชิญชวนสงสัย แต่ว่าแทนที่มันจะไปให้สุดล้ำๆไปเลย กลายเป็นเรื่องราวที่ปกติกว่าที่คิดถูกเฉลยคำตอบเรื่องราวทั้งสิ้นออกมาผ่านซีนเดียว ต้องการที่จะให้เป็นเสมือนอย่าง Arrival หรือ Interstellar ไปเลย

ครึ่งเรื่องแรกกับข้างหลังเลยไม่เหมือนกันราวฟ้ากับเหว ครึ่งเรื่องแรกก็เดินเรื่องยืดยาดปูนักแสดงกันไป ยิ่งพอเพียงถึงพาร์ทที่ขึ้นไปพระจันทร์ยิ่งน่ารำคาญเข้าไปใหญ่ ไม่สนุกเลยจริงๆ

มาทางด้านดารา ไล่ไปครั้งละคนเลย เริ่มตั้งแต่ Patrick Wilson ในบทนักบินอวกาศ ที่นักแสดงปราศจากความน่าไว้วางใจอะไรสักเท่าไหร่ การตัดสินใจแต่ละอย่างชอบเป็นการคาดการณ์ ตามมาด้วย Halle Berry ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายอะไรสักอย่างของ Nasa แต่ว่าตรรกะแล้วก็กรรมวิธีตกลงใจอะไรหลายแบบของคุณมิได้กลับมองไม่ใช่บุคคลที่น่าไว้วางใจหรือพึ่งได้ราวกับนักแสดง Wilson เหมือนกัน ในที่สุด John Bradley เป็นตัวละครเดียวที่ทำให้หนังมองบันเทิงใจ ด้วยมุกตลกโปกฮายิ้มคละเคล้าหัวเราะคิกคักแป้กบ้าง ฮาบ้าง แม้กระนั้นไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่านักแสดงนี้แหละทำให้หนังมันมองบันเทิงใจจริงๆแม้กระนั้นบทก็ไม่อาจจะนำพาผู้ชมอย่างพวกเราต้องการเอาใจช่วยแต่ละผู้แสดงเลยสักหน่อย เพียงพอถึงพาร์ทที่มันควรอินร้องไห้มันเลยทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนเป็นเฉยๆไปเลย