mylovely angel ความขาดแคลนซอยมาเยี่ยมเมื่อเขาโดนยึดธุรกิจคืน บ้านของอึนฮเยก็ถูกเจ้าหนี้ยึดทรัพย์สิน เขาก็เลยเริ่มเดินทางกับอึนฮเยไปตามหาเครือญาติของคุณในบ้านนอกที่ปรากฏชื่อในโทรศัพท์ของแม่ว่าได้ยืมเงินไปหลายต่อผู้คนจำนวนมาก เยอะๆๆการเดินทางที่สืบต่อความเกี่ยวเนื่องของทั้งสอง ให้มีระยะเวลาดำเนินชีวิตด้วยกันในพื้นที่จำกัด กินนอนบนรถยนต์ ผจญเรื่องราวสุขทุกข์ที่ไม่คาดคิดอีกหลายๆเรื่องราว ความสัมพันธ์ในสถานะคล้ายบิดา-ลูกที่เบาๆปรับปรุงเหนียวแน่นมากเพิ่มขึ้น แต่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการจบตกลงใจทำหัวข้อสำคัญที่บีบหัวใจสุดๆ
แม้ว่าจะเป็นหนังฟอร์มเล็ก แต่ว่าโดยโครงพล็อตถือได้ว่าเรื่องที่น่าดึงดูด ความเชื่อมโยงแนวนี้ถือมาใช้เมื่อใดก็เรียกความเห็นใจได้แน่ๆ การเล่นในมุมความคล้าย ที่คนสองคนต่างสันโดษไม่มีผู้ใด เปลี่ยนมาเป็น ‘ใครสักคน’ ของกันและกัน การเล่นในมุมต่าง จับคู่เพศชายที่ค่อนข้างจะกระด้างกับเด็กสาวผู้หวั่นไหว ปรารถนาความรู้ความเข้าใจอย่างทะนุถนอม เปลี่ยนเป็นคู่ต่างที่ยามเข้ากันได้เป็นความอบอุ่นชักชวนจิตใจฟู ยิ่งได้ จินข้า ผู้รู้เรื่องอารมณ์คนเป็นบิดามารับบทนี้ และก็ น้องจองตรอกอน ที่เค้าหน้าน่ารักน่าชัง ไม่ว่าจะมู้ดบึ้ง งอน หรือยิ้มแย้ม น้องแสดงได้ดิบได้ดีทีเดียวในหน้าที่ของผู้ที่โลกอยู่ในความมืดดำ
ตามความจริง การพัฒนาเด็กที่ทุพพลภาพซ้ำไปซ้ำมา (ที่ไม่เคยได้รับการดูแลอย่างแม่นยำมาก่อน) ย่อมไม่ใช้ว่าจะง่าย จำต้องใช้เวลาค่อยๆเป็นค่อยๆไป แม้กระนั้นความเป็นหนัง เพื่อสำราญใจก็เลยจำเป็นต้องดำเนินเรื่องอย่างรวบย่อท้อ ตัดแสดงที่อยากได้เน้นย้ำสร้างอารมณ์ให้ไว ก็เลยทำให้หลายๆฉากมองเป็นบทประดิษฐ์ไปหน่อย มีความไม่เหมือนจริงอยู่บ้าง แม้กระนั้นถ้าเกิดคลายอารมณ์ไหลตามแบบไม่คิดมากมายก็ซาบซึ้งใจได้อยู่ อย่างไรก็ดี การขมวดเรื่องราวในที่สุดก็นับว่าทำเป็นเหมือนจริงมากยิ่งกว่า ไม่โลกงามเกินความจำเป็น เลยแปลงเป็นจุดพีคที่สะเทือนขวัญได้อารมณ์เกินคาด
mylovely angel พากย์ไทย
คุณประโยชน์ดีเลิศของประเด็นนี้อาจจะจำต้องขอชูให้ การจุดหลักสำคัญกระตุ้นสังคมให้แลเห็นคนไม่สมประกอบซ้ำไปซ้ำมา ตาบอดและก็หูหนวก ที่แม้ว่าจะมีเพียงแต่ราว 10,000 คนภายในประเทศ แม้กระนั้นพวกเขาก็เหมาะได้รับการให้ความสนใจ มีนโยบายช่วยเหลือที่สมควรมารองรับ น่ายกย่องคนภายในอุตสาหกรรมรื่นเริงของประเทศเขาจริงๆที่มองเห็นจุดเล็กๆรวมทั้งเอามาขยายให้ใหญ่ขึ้น เป็นปากเสียงให้กับสังคมอย่างแท้จริง The Covenant” กระตุกต่อมสละชีวิต..น้ำตาคลอหน่วย ถึงคิวผลงานใหม่อีกหนึ่งเรื่องของผู้กำกับ “กาย ริตชี” ที่ได้ได้โอกาสลงโรงฉายในประเทศไทยแบบชนกันทั้งคู่เรื่อง (อีกประเด็นก็คือ Operation Fortune: Ruse de guerre) ในอาทิตย์ช่วงกลางเดือนม.ย. และก็ประเด็นนี้เป็น “The Covenant”
ที่มากับโหมดเอาจริงเอาจัง พกกองกำลังทหารสหรัฐอเมริกา มาอย่างมาดแมน แม้กระนั้นเนื้อแท้ของหนังประเด็นนี้แทรกสอดไปด้วยใจความสำคัญมิตรภาพ ความคาดหวัง แล้วก็ช่องทางในการศึก ที่ดีไม่ดีบางทีก็อาจจะจำเป็นต้องเสียน้ำตาให้ด้วย The Covenant เกิดเรื่องราวของ นายสิบสิบเอก จอห์น คินลีย์ กับ อาเหม็ด ล่ามภาษาชาวอัฟกัน ที่จะต้องระเหเร่ร่อนต่อสู้ป่าดงตาลีบานด้วยกัน ภายหลังจากกองกำลังของพวกเขาได้ถูกซุ่มจู่โจมอย่างมากถ่วง โดยที่อาเหม็ดได้เพียรพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อจะช่วยเหลือจอห์นเอาไว้ให้ได้ แม้กระนั้นเมื่อจอห์นฟื้นขึ้นมาทราบดีว่า อาเหม็ดยังคงหลบๆหลบซ่อนๆอยู่ที่อัฟกานิสถาน ที่ตาลีบานได้หมายหัวเขาเอาไว้จากความกล้าหาญที่เขาได้ช่วยเหลือทหารอเมริกันเอาไว้ ทำให้เขาเลือกที่จะกลับไปสู่สนามรบตนเองอีกที เพื่อช่วยเหลือ…เพื่อนพ้องร่วมรบ
รวมทั้งอีกเหมือนปกติ The Covenant ก็ยังคงได้ผลการงานเขียนบทหนังของ 3 ทหารเสือหน้าคุ้น mylovely angel กาย ริตชี ร่วมด้วย อิแวน แอตคินสัน กับ มาร์น เดวีส์ ที่พวกเขาทั้งคู่คนต่างประสานมือกันเขียนบทแล้วก็ปรับปรุงบทมาด้วยกันในผลงานหลายๆหัวข้อนี้ สำหรับในหนังประเด็นนี้นั้นจัดว่ามีกลิ่นที่ต่างไปจากงานเดิมของพวกเขาอยู่ไม่น้อย ถึงแม้มันจะยังแทรกสอดกลิ่นความเป็นหนังสุภาพบุรุษแนวถนัดอยู่ไปบ้าง แต่ว่ากับมีเส้นเรื่องแล้วก็ส่วนประกอบอื่นที่หนักแน่นมากกว่าโดยจะว่าไปแล้ว The Covenant ถือได้ว่าหนังที่มีซีนแล้วก็อิริยาบถที่ชมเชยกองทัพสหรัฐอเมริกา อยู่พอได้ แต่ว่าพวกเขาก็มิได้ทำออกมาเป็นหนังกองทัพคะๆแบบเชิญชวนมันอะไรทำนอง กลับสดุดหน้าที่เล็กๆที่สำคัญในการสู้รบกับตาลีบานที่คงจะถูกละเลยไป
อย่างข้าราชการล่ามภาษาถิ่น ที่นับว่าเป็นหนึ่งในกองกำลังที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แล้วก็เสี่ยงอันตรายกับการมีชีวิตอยู่ในสังคม lovely angel เพื่อมาปฏิบัติภารกิจสำหรับในการแปลภาษาให้กับข้างศัตรูของรกรากของพวกเขา จำต้องเห็นด้วยว่าโครงเรื่องกล้วยๆของหนังเป็นจุดที่ทำให้มันเวิร์กก้าวหน้า เมื่อมาเพิ่มเติมกับการเล่าเรื่องที่มิได้มีอะไรสลับซับซ้อน The Convenant ก็เลยแปลงเป็นหนังแอคชั่นด้านการทหารที่มองได้สนุกสนานเพลิดเพลินเอาการ เรื่องราวค่อนๆสองเท่าความเข้มข้นเป็นลำดับขั้นของเหตุการณ์ที่หนังทำขึ้นมาในแต่ละซีน ถึงมันจะยังมีจุดที่เกินจริงและไม่มีเหตุผลผสมปนเปอยู่ไปบ้าง แต่ว่าหนังก็มอบความเพลิดเพลินแบบที่ผู้ชมอยากได้ได้อย่างดีเยี่ยมโลเคชั่นของหนังประเด็นนี้จัดว่าแจ่มมากมาย
แน่ๆว่าพวกเขาไม่มีวันไปถ่ายทำในสถานที่จริงอยู่แล้ว แต่ว่าการเลียนแบบบรรยากาศของอัฟกานิสถานในหนังประเด็นนี้จัดว่าออกจะใช้ได้ทีเดียว ถึงแม้ในความเป็นจริงแล้วในหนังพวกเขาจะถ่ายทำอยู่ในประเทศสเปนเป็นหลัก ส่วนมุมภาพรวมทั้งมุมกล้องถ่ายรูปก็ยังไม่ทิ้งลวดลายของ กาย ริตชี แนวทางต่างๆบางครั้งอาจจะมิได้มีลูกเล่นอะไรมากแค่ไหน แต่ว่ามีส่วนสำหรับการช่วยบิวท์อารมณ์แล้วก็บรรยากาศของหนังเอาไว้ภายในจังหวะที่ดี ยิ่งมาได้เรื่องแสดงที่เป็นมือโปรของ “เจค จิลเลนฮาล” เข้าไปด้วย ยิ่งทำให้หนังเต็มไปด้วยอรรถรสเข้าไปใหญ่ เขามอบการแสดงที่เด็ดขาดสไตล์ของเขา เล่นน้อยแต่ว่าให้ออกมามากมาย ถึงจะมิได้เป็นการแสดงระดับมาสเตอร์พีชอะไร แต่ว่าเขาก็คือนักแสดงหลักที่หามหนังประเด็นนี้เอาไว้ได้ดีเยี่ยม เหมือนกับ “ดาร์ ซาลิม”
ที่ไม่กล่าวถึงมิได้เลย นับว่าบทส่งให้เขาอยู่ไม่น้อย แต่ว่าค้างแรกเตอร์นี้เต็มไปด้วยนานาประการมุมให้น่าตรวจสอบ แล้วก็เขาก็ทำออกมาได้ดิบได้ดี ในลักษณะไม่ค่อยพูดต่อยหนักตกลงว่าภายหลังที่ได้เสพงานหนังของ กาย ริตชี มาหลายเรื่องก่อนหน้าที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นว่าเขายอดเยี่ยมในผู้กำกับที่มีความมากมายหลายสำหรับการผลิตอยู่ไม่น้อย ถึงจะถนัดในงานสร้างภาพยนตร์แอคชั่นสไตล์สุภาพบุรุษ แต่ว่าเขาก็ยังหันมาทำหนังแฟนตาซีให้ดิสนีย์ได้ แล้วก็ปัจจุบันมาจับทำหนังดราม่าเกี่ยวกับการศึกออกมาก้าวหน้าอีกเหมือนกัน ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่า กาย ริตชี ชื่อนี้ไม่มีอะไรที่เขาจะทำไม่ได้ในแวดวงหนังอีกแล้ว
ฉะนั้นโดยภาพรวมแล้ว The Covenant ก็ถือได้ว่าหนังที่ค่อนข้างจะมอบคำตอบที่เซอร์ไพรส์อยู่พอได้ mylovely angel ด้วยเหตุว่ามิได้มุ่งหวังที่กำลังจะได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่อะไรอย่างนี้ แม้กระนั้นหนังสามารถตอบปัญหารวมทั้งสร้างความอิมแพคต่อจิตใจผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ว่าหนังจะยังค่อยข้างเพลย์เซฟกับสูตรสำเร็จที่มิได้แปลกใหม่ใดๆ แม้กระนั้นอย่างต่ำๆก็ทำหนังออกมาได้บันเทิงใจและก็ชื่นชอบ นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งหนังทหารที่น่าจำเอาไว้อีกหนึ่งเรื่องในยุคนี้อย่างยิ่งจริงๆ
The Mother” ปลุกไฟตัวแม่
แม้จะพูดถึงชื่อ “เจนนิเฟอร์ โลเปซ” คุณก็คือเอนเตอร์เทนเนอร์ตัวท็อปของฮอลลิวูดที่เรืองรองอยู่ในแวดวงมายาวนานกว่า 30 ปี ออกอัลบั้มร้องเต้นได้เป็นมือโปร รวมทั้งยังวาดลวดลายแอคติ้งมีผลงานการแสดงเป็นที่แจ่มแจ้ง แม้กระนั้นในคราวนี้พวกเราจะได้เห็นภาพที่ต่างไปจากเดิมของคุณ เพราะเหตุว่าใน “The Mother” ถือเป็นการกลับมาจับปืนและก็ออกโรงบู๊ในรอบนับเป็นเวลาหลายปีของคุณ คุณจะมาเป็นมือสังหารสาวโหดเหี้ยมก้าวหน้าเท่าๆกับสาวเชิญฝันในหนังรอมคอมแนวถนัดหรือเปล่า? The Mother เกิดเรื่องราวของมือสังหารสาว ที่ผ่านการฝึกอบรมสุดทรหดจากกองทัพมาอย่างชำนิชำนาญ แม้กระนั้นคุณได้ตกลงใจออกมาจากแหล่งซ่อนตัวที่กบดานมานับสิบปี
เพื่อมาป้องกันบุตรสาวของตนที่ไม่เคยเจอหน้ารวมทั้งมีสายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันมาก่อน quierocreedence แต่บุตรสาวกำลังตกอยู่ในอันตรายจากเหล่าผู้ร้ายสุดโหดร้ายที่ติดตามมาทวงแค้นคุณ คุณก็เลยมีภารกิจเดียวเป็น..ป้องกันบุตรสาวให้รอดพ้น นี่เป็นผลงานปัจจุบันของผู้กำกับหญิง “นิกิ ติดอยู่โร” ที่ถือได้ว่างานล้างตารวมทั้งล้างดวงใจจาก Mulan ที่แปลงเป็นผลงานที่คุณถูกวิภาควิจารณ์มากมายไปสักนิดสักหน่อย แน่ๆว่าข้อดีของผู้กำกับหญิงนี้ถืองานสร้างที่บากบั่นส่งเสริมแล้วก็ขับความแข็งให้กับผู้แสดงนำหญิงที่คุณมันจะทำเป็นเสร็จอยู่ตลอดๆนับจากผลงานแจ้งกำเนิดของคุณใน Whale Rider เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา
ถึงแม้ใน The Mother จะเป็นเพียงแค่หนังแอคชั่นดราม่าปกติที่มองผิวเผิน mylovely angel แล้วมันก็ไม่ค่อยจะไม่เหมือนกับเฟรนไชส์หนังเครือญาติ Jason Bourne อะไรทำนองนั้น เพียงในคราวนี้ปรับพฤติกรรมละครหลักเป็นมือสังหารหญิงแทน โทนและก็กลิ่นของหนังคล้ายกับหนังบอร์น แม้กระนั้นองค์ประกอบและก็พล็อตเรื่องของหนังประเด็นนี้บางครั้งก็อาจจะมิได้หนักแน่นได้เท่ากัน เพราะว่าบทหนังก็ยังเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จเดิมๆ
The Mother มองทรงและประหนึ่งว่าเน็ตฟลิกซ์ต้องการจะสร้างภาพยนตร์แอคชั่นสไตล์ Extraction ที่บรรลุเป้าหมายมากมายๆของพวกเขา แม้กระนั้นปรับจากวีรบุรุษชายมาเป็นวีรบุรุษหญิงแทน ลีลาท่าทางคล้ายกันแต่ว่ายังไม่เข้มข้นและก็มีเชิงชั้นได้ถึงระดับนั้น หนังใช้กลุ่มคนเขียนบทถึง 3 คน ที่นับว่าเป็นท็อปๆทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น “ไมชา กรีน” (จากซีรีส์ Lovecraft Country), “อันเดรีย เบอร์ลอฟ” (จาก Straight Outta Compton) และก็ “ปีเตอร์ เคร็ก” (จาก The Batman) แม้กระนั้นยังโชคร้ายไปสักนิดสักหน่อย ที่บทหนังน่าจัดจ้าได้มากกว่านี้
Assassin Club” ความมานะบากบั่นจะสะกดรอยเฮียวิค
แน่ๆว่าหนังบู๊ไม่น่าจะมีวันตายไปจากวงการหนังได้อย่างง่ายดายเนื่องจากว่ามันยังมีกิมไม่กอะไรเยอะแยะที่แรมรอนให้แตกหน่อให้ผลผลิตใหม่ๆมาสร้างความระทึกใจให้กับผู้ชมได้เรื่อยแม้กระนั้นก็ไม่ใช่ว่าวัตถุดิบที่บรรลุเป้าหมายก้าวหน้าอยู่แล้ว จะถูกถือเอามาแต่งใหม่เป็นหนังเรื่องใหม่ได้เวิร์กเสมอ ก็อย่างกับ “Assassin Club” หนังแอคชั่นมือสังหารที่คงจะต้องการดำเนินรอยตามการบรรลุเป้าหมายของเฟรนไชส์ John Wick ก็เลยได้กล้าคิดที่จะออกมาแข่งขัน Assassin Club เกิดเรื่องราวของ มอร์แกน อดีตกาลทหารชายหนุ่มที่เปลี่ยนมาเป็นมือสังหารอาชีพ โดยเขาได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานในที่สุดก่อนที่จะถอนตัวออกมาจากแวดวงนี้ ซึ่งจำเป็นต้องไปจัดแจงเด็ดหัวมือสังหารอีกทั้ง 7 ผู้ที่กระจัดกระจายอยู่พื้นที่ต่างๆทั้งโลก แม้กระนั้นระหว่างดำเนินการดูเหมือนกับว่าเขาเองก็แปลงเป็นหนึ่งในแผนการที่ถูกสั่งเก็บด้วย ทำให้เขาจำเป็นต้องรีบสืบเสาะหาเบื้องหน้าเบื้องหลังข้อเท็จจริงและก็จัดแจงคนที่สั่งการหัวข้อนี้ก่อนมันจะสายเกินแก้
นี่เป็นผลงานปัจจุบันของผู้กำกับชาวประเทศฝรั่งเศส “กามีย์ เดลามาร์เร” ที่เคยแจ้งเกิดขึ้นมาจากหนัง Brick Mansions และก็ทำภาคถึงแม้ว่าจะ The Transporter Refueled เมื่อหลายปีที่ผ่านมา แน่ๆว่าเขายังคงเอาดีด้านการทำหนังแอคชั่นแนวทริลเลอร์ตื่นเต้นตามสไตล์ของเขา หากว่าผลงานชิ้นก่อนหน้านี้ๆในเครดิตของเขาจะไม่ค่อยน่าอภิรมย์ในกลุ่มนักวิพากษ์วิจารณ์สักเท่าไหร่ แต่ว่าเขาก็ยังไม่หมดแพสชั่นที่จะทำหนังแนวนี้ถัดไป สิ่งเดียวกันใน Assassin Club ก็ยังเข้าเกณฑ์เป็นหนังบู๊สูตรเดิมๆของผู้กำกับรายนี้ ที่พวกเราจะสัมผัสได้ถึงลายเซ็นของเขาอย่างดีเยี่ยม แต่ว่าโชคร้ายอยู่เพียงอย่างเดียวก็คือ หนังดันมาล้มเหลวสุดๆเพราะว่าบทหนังที่หยุดตายสนิทแทบมิได้ให้ได้ผุดได้กำเนิดกันเลย นี่เป็นผลงานของ “ทอมัส ดันน์”
ผู้เขียนคนที่ก่อนหน้านี้แทบไม่เป็นผลงานสะดุดตาเลย mylovely angel เขาเคยแม้กระนั้นเขียนหนังสั้นกับหนังเขย่าขวัญเกรดบี เมื่อมาแตะต้องจับหนังแอคชั่นมือสังหารเข้มข้นประเด็นนี้ ทำให้ไดดามิกต่างๆในบทหนังเรื่องเกือบจะอยู่ในสภาพการณ์ไม่มีน้ำหนักอย่างสิ้นเชิงยิ่งดูแล้วก็เหน็ดเหนื่อยไปเรื่อยเพราะว่าถึงหนังจะเปิดเรื่องมาได้ค่อนข้างจะเอาจริงเอาจัง แม้กระนั้นเป็นก็แค่จังหวะ 10 นาทีแรกของเรื่องเพียงแค่นั้นที่ทำให้พวกเราหยุดพึงพอใจ ต่อจากนั้นแปลงเป็นหนังที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่สะเปะสะปะอย่างชี้แจงผิด เนื่องจากว่าไม่ทราบว่าหนังจะเอาดีด้านไหน จะบู๊สนุกก็ทำไม่ถึง จะบาดใจกับบทเจรจาต่อของนักแสดงก็ไม่ถึงอรรถรส แปลงเป็นความจืดจางที่ไร้รสชาติไปตลอดทั้งเรื่อง
ถึงแม้ว่าหนังจะได้วัตถุดิบที่ดีเป็นแคสติ้งดาราระดับเป้งๆทั้งยัง “เฮนรี่ โกลดิ้ง”, “แซม นีล” หรือ “นูไม่ ราเพซ” แต่ว่าบทหนังที่ไม่มีน้ำหนักแบบพินาศ ไม่อาจจะช่วยขับติดอยู่แรกเตอร์และก็ทำให้ผู้แสดงเด่นได้เลย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมานะทำออกมาก้าวหน้าเพียงใดก็ตาม แม้กระนั้นก็ล้มเหลวไปอย่างน่าผิดหวัง เปลี่ยนเป็นว่า Assassin Club เกือบจะไม่มีอะไรให้น่าจำเลย เป็นหนังเกือบจะ 2 ชั่วโมงที่แอบเสียเวล่ำเวลาไปอยู่ไม่น้อยสรุปว่าในรูปภาพรวมแล้วนั้น Assassin Club จัดว่าค่อนข้างจะล้มเหลวเกือบจะในทุกๆส่วนประกอบ ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับความพากเพียรที่สะกดรอย จอห์น วิค เลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุว่าหนังไม่อาจจะนำไปวางเคียงกันได้เลย จุดเสียหลักเป็นบทหนังที่ทำให้ทั้งยังเรื่องมุ่งไปสู่ความพังทลายพิทุ่งนาสอย่างต่อเสียดาบ ทั้งยังเต็มไปด้วยบทสำหรับพูดเอาจริงเอาจังแบบเลียนแบบๆพลอยทำให้การแสดงมองเลียนแบบตามไปด้วย แล้วก็ยังเลียนแบบไปจนกระทั่งเปลวเพลิงในเตาผิง นี่เป็นหนังที่ได้แต่ว่าคิดหลายๆครั้งว่า…ผ่านการอนุญาตให้สร้างได้ยังไง?