TRIUP Act พรบ. เพื่อนักวิจัยไทย ปลดล็อคความเป็นเจ้าของผลงานวิจัย

TRIUP Act

TRIUP Act  เป็นยังไงหรือพ.ร.บ.ผลักดันการใช้คุณประโยชน์ผลที่เกิดจากงานวิจัยและก็สิ่งใหม่

TRIUP Act มีผลบังคับใช้ทีแรกวันที่ 6 เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2565 เป็น พระราชบัญญัติ ที่ถูกส่งเสริมเข้ามาเพื่อสนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์จากผลของงานวิจัยรวมทั้งของใหม่อย่างสม่ำเสมอมากเพิ่มขึ้นมีประโยชน์สำคัญดังต่อไปนี้ ให้คนรับทุนไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย ภาคเอกชนหรือนักค้นคว้าสามารถเป็นเจ้าของผลของงานวิจัยที่ได้รับทุนส่งเสริมจากเมืองได้

ให้คนที่เป็นเจ้าของผลการวิจัยรวมทั้งของใหม่จะต้องใช้ประโยชน์จากผลที่เกิดจากงานวิจัยแล้วก็สิ่งใหม่ภายในช่วงระยะเวลาที่ระบุ แล้วก็จะต้องบริหารจัดแจงแล้วก็รายงานผลของการใช้ประโยชน์ผลที่ได้รับจากงานวิจัยและก็ของใหม่ต่อผู้เสียสละทุนระบุหลักเกณฑ์ TRIUP Act สำหรับการโอนผลที่เกิดขึ้นจากงานวิจัยและก็สิ่งใหม่ของคนที่เป็นเจ้าของผลงานให้แก่บุคคลอื่นรวมทั้งหน้าที่ของคนรับโอนผลจากงานวิจัยและก็ของใหม่

ให้คนที่มุ่งมาดปรารถนาจะใช้ประโยชน์ในผลการวิจัยแล้วก็ของใหม่ สามารถขอใช้ประโยชน์ได้ โดยเสนอข้อจำกัดรวมทั้งค่าแรงงานที่สมควรให้สิทธินายกฯสั่งให้หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายใช้ประโยชน์ผลที่เกิดจากงานวิจัยและก็ของใหม่ที่เกิดขึ้นจากทุนของเมืองในกรณีรีบด่วนหรือภาวะวิกฤติ

TRIUP Act

ระบุหน่วยงาน แนวทางการเกื้อหนุนรวมทั้งการจัดสรรเงินค่าจ้างแก่นักศึกษาค้นคว้าเพื่อช่วยเหลือการนำผลที่เกิดจากงานวิจัยและก็สิ่งใหม่เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่สมควรไปใช้ประโยชน์ในวงกว้าง (Appropriate Technology)
การใช้คุณประโยชน์ผลการวิจัยรวมทั้งของใหม่เป็นอย่างไร?ใน TRIUP Act มีกรอบช่วงเวลาของการนำไปใช้ประโยชน์ไม่เกิน 2 ปี ถ้าเกิดพวกเราไม่สามารถที่จะบริหารจัดแจงเอาไปใช้คุณประโยชน์ได้ในกรอบเวลาดังที่กล่าวถึงมาแล้วได้พวกเราบางทีอาจเสียสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผลที่ได้รับจากงานวิจัยฯ ส่วนการนำไปคุณประโยชน์ที่ว่ามีแบบอย่างดังต่อไปนี้

การใช้หรืออนุญาตให้ใช้สิทธิ (Licensing) ในตัวผลวิจัยรวมทั้งสิ่งใหม่สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ การจัดทำบริการ การปรับแก้แนวทางการผลิต การจัดองค์ประกอบหน่วยงาน การจัดการจัดแจง หรือปฏิบัติงานอื่นในเชิงการค้า หรือสาธารณประโยชน์การศึกษาค้นคว้าวิจัยต่อยอดผลจากงานวิจัยรวมทั้งสิ่งใหม่

ในบางผลของงานวิจัยบางทีอาจไม่อาจจะใช้ประโยชน์คุณประโยชน์เชิงการค้า หรือสาลำธารคุณประโยชน์ได้ในทันที ซึ่งบางทีอาจจำต้องนำไปศึกษาเล่าเรียน ค้นคว้า ทดสอบ หรือศึกษาค้นคว้าเพิ่มอีก อีกหลาย Step กว่าจะเปลี่ยนมาเป็นต้นแบบสินค้าที่เอาไปใช้ได้จริง ฉะนั้นถ้าผลที่เกิดจากงานวิจัยของพวกเราถึงแม้มิได้ถูกนำไป Licensing แม้กระนั้นมีการปรับปรุงต่อยอดระดับความพร้อมเพรียงของเทคโนโลยี(Technology Readiness Level) ให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น ก็ถือเป็นการใช้ประโยชน์เหมือนกัน
การจำหน่ายจ่ายโอนผลที่เกิดขึ้นจากงานวิจัยแล้วก็ของใหม่ หรือแนวทางการขายผลที่เกิดขึ้นจากงานวิจัยก็ถือได้ว่าเป็นการเอาไปใช้คุณประโยชน์เหมือนกัน

จะเข้ามามีหน้าที่มากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต นำมาซึ่งแนวทางการ หรือแนวทางการใหม่ๆในหลายภาคส่วนที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อมุ่งส่งเสริมการนำผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยและก็ของใหม่ไปใช้ประโยชน์จริงอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งสิ่งจูงใจของนักค้นคว้าไปจนกระทั่งการผลิตเศรษฐกิจฐานของใหม่ของประเทศให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน

คนไหนได้ประโยชน์ ?มิได้ให้ผลดีแก่นักศึกษาค้นคว้าเพียงแค่นั้น พระราชบัญญัติ ฉบับนี้ มีเนื้อหาหรือกฎเกณฑ์ที่ออกจะครอบคลุมนำมาซึ่งการทำให้ทุกภาคส่วนจะได้รับผลดีที่ต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชนเองที่แม้ว่าจะได้รับทุนเกื้อหนุนจากภาครัฐแต่ว่าก็จะปฏิบัติการต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ในภาคสามัญชน เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน จะสามารถเข้าถึงผลของงานวิจัยและก็สิ่งใหม่ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นจากการศึกษาค้นคว้า

วิจัยเทคโนโลยีที่สมควร (Appropriate Technology)

ซึ่งก็จะก่อให้นัวิจัย มหาวิทยาลัยตระหนักถึงการศึกษาเรียนรู้เทคโนโลยีที่จะเอาไปใช้คุณประโยชน์ในวงกว้างเพิ่มมากขึ้น และก็ท้ายที่สุดด้วยการที่เกิดการใช้คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยแล้วก็สิ่งใหม่ที่มากขึ้น ก็จะนำมาซึ่งการผลิตเศรษฐกิจฐานสิ่งใหม่ให้กับเมืองไทยได้อย่างยั่งยืนเปิดเวทีสร้างการรับทราบ TRIUP Act พรบ.ฉบับใหม่ปลดล็อกงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัย นำเมืองไทยสู่การพัฒนาiNT ร่วมกับแผนกวิทย์ มัธยมมหิดล

จัดแผนการอบรมในเรื่องที่เกี่ยวของกับการปรับปรุงเทคโนโลยี สิ่งใหม่รวมทั้งการใช้คุณประโยชน์ภายใต้ ทำความเข้าใจ พระราชบัญญัติ เกื้อหนุนการใช้ผลดีผลการวิจัยและก็สิ่งใหม่ ชี้ทางส่งเสริมงานศึกษาค้นคว้าวิจัยจากหิ้งสู่ห้าง8 มี.ค. 2566 สถาบันบริหารจัดแจงเทคโนโลยีและก็ของใหม่ (iNT) ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดโครงงานอบรมในด้านของการปรับปรุงเทคโนโลยี ของใหม่แล้วก็การใช้ผลดีภายใต้  (TRIUP Act & Technology Commercialization) ให้โอกาสให้คุณครู

นักค้นคว้า แล้วก็พนักงานที่ดำเนินงานด้านในมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำความเข้าใจ รวมทั้งแลกศึกษาในหัวข้อต่างๆเกี่ยวกับพ.ร.บ.ช่วยเหลือการใช้คุณประโยชน์ผลวิจัยรวมทั้งของใหม่ พุทธศักราช 2564 รวมถึงข้อบังคับลำดับรอง รวมทั้งประกาศอื่นๆที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อบ่งชี้จุดสำคัญของ ‘ทรัพย์สินทางปัญญา’ (Intellectual Property) ในสมัยสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge based economy)

ในตอนนี้ ที่ทุกประเทศมานะปรับปรุงของใหม่รวมทั้งสร้างทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆสำหรับการขับรวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ แล้วก็เพื่อจุดประกายสร้างแรงกระตุ้นให้คุณครู นักค้นคว้า รวมทั้งนิสิตดูถึงจังหวะสำหรับเพื่อการนำผลจากงานวิจัย เทคโนโลยี แล้วก็ของใหม่ของมหาวิทยาลัย ไปใช้ประโยชน์ต่อยอดในเชิงการค้า เพื่อรองรับความต้องการของสังคมแล้วก็คุณประโยชน์ต่อหมู่ชนในคราวนี้ โครงงานอบรมฯ ได้รับเกียรติยศจาก 3 ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญาจากหน่วยงานภาครัฐรวมทั้งเอกชน เช่น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัครวิทย์ กาญจนถึงโอภาษ ผู้ที่มีความชำนาญ ที่ทำการคณะกรรมการเกื้อหนุนวิทยาศาสตร์ ศึกษาค้นคว้า แล้วก็สิ่งใหม่ (สกสว.)

TRIUP Act

คุณวิกรานต์ ดวงมณี Head of Intellectual Property Management บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) และก็คุณพิเชษฐ์ ธนพงศ์พันธุ์ต้องมั่งมี ข้าราชการทรัพย์สินทางปัญญา สถาบันบริหารจัดแจงเทคโนโลยีแล้วก็ของใหม่ (iNT) เป็นวิทยากรให้ความรู้ความเข้าใจแก่คณะครู เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง 4king  นักค้นคว้า และก็นิสิต ปริมาณกว่า 50 คนในห้องที่ใช้ในการประชุมตึกเงิน คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พญาไท โดยในจังหวะอันดีนี้ รศ. ดร.ตำแหน่งชนัน สกุลความเจริญรุ่งเรือง

ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดแจงเทคโนโลยีรวมทั้งสิ่งใหม่ (iNT) มหาวิทยาลัยมหิดล แล้วก็ประธานคณะวิทยาศาสตร์ นำโดย รศ. ดร.พลังพล คงจะเสรี คณบดี รศ. ดร.วีระชัย สิริพันธ์วราภรณ์ รองคณบดี ศ.จ. ดร.ฤทัยชาติชั้นวรรณะ โต๊ะทองคำ รองคณบดีข้างศึกษาค้นคว้าและก็วิเทศสัมพันธ์ แล้วก็รศ. ดร.ณัฏฐวี เนียมศรี ผู้ช่วยคณบดี ได้ให้เกียรติร่วมพิธีการเปิดการฝึกฝนเปิดเวทีสร้างการรับทราบ TRIUP Act พรบ.ฉบับใหม่ปลดล็อกงานค้นคว้าวิจัย นำเมืองไทยสู่การพัฒนาวช.เปิดเวทีสร้างการรับทราบ พรบ.ฉบับใหม่ปลดล็อกงานค้นคว้า นำเมืองไทยสู่การพัฒนา ในงานวันนักคิดค้น ปี 2566

ที่ทำการการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยแห่งชาติ ( วช ) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ ศึกษาค้นคว้ารวมทั้งสิ่งใหม่ จัดงาน วันนักคิดค้นรายปี 2566 ภายใต้แนวความคิด ขับเศรษฐกิจแล้วก็สังคมด้วยสิ่งประดิษฐ์์แล้วก็ของใหม่ ระหว่าง 2-6 เดือนกุมภาพันธ์ 2566ในอีเว้นท์ ฮอล 100-102 ศูนย์นิทรรศการและก็การสัมมนาไบเทค บางนา

ดร. ความงดงามรัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ วช. บอกว่า การจัดงานวันนักคิดค้นนับว่าเป็นเวทีของนักคิดค้นไทยรวมทั้งนักคิดค้นจากนานาประเทศที่ให้โอกาสให้นำผลงานมาแสดงแล้วก็เผยแพร่ผลงานเพื่อนำเสนอองค์วิชาความรู้รวมทั้งความรู้ความเข้าใจสู่หมู่ชน พร้อมด้วยเป็นเวทีที่จะจัดให้มีการมอบรางวัลการศึกษา

ทำการค้นคว้าและทำการวิจัยแห่งชาติรวมทั้งการประดิษฐ์สร้างสรรค์แก่ผู้ส่งผลงานอันเป็นคุณประโยชน์ทั้งยังในด้านวิชาการ มีความสามารถในการค้นคว้ารวมทั้งประดิษฐ์สร้างสรรค์กระทั่งไปถึงเป้าหมายก่อเกิดการพัฒนาชาติ โดยได้รับบุญคุณจากสมเด็จพระน้องธิราชเจ้า กรมพระยาพระเทวดารัตนราชลูกสาวฯ ประเทศไทยบรมราชเด็กหญิง เดินทางไปทรงพระราชทานรางวัล ยิ่งกว่านั้นตลอดการจัดงานวันนักคิดค้น วช. ยังได้จัดให้มีเวทีพูดคุยเพื่อสร้างการรับทราบในประเด็นที่น่าดึงดูด แล้วก็มีคุณประโยชน์

เวทีพูดคุย ในประเด็น พรบ. (ช่วยเหลือการใช้คุณประโยชน์ผลการวิจัยแล้วก็ของใหม่) จำต้องทราบ ซึ่งจัดขึ้นช่วงวันที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เป็นอีกหนึ่งเวทีพูดคุยที่มีผู้พึงพอใจเข้ายอมรับฟังจำนวนมาก โดยได้รับเกียรติยศจาก 2 ผู้ทรงคุณวุฒิ มี ศาสตราจารย์ชื่อเสียง นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานคณะกรรมการเกื้อหนุนวิทยาศาสตร์ศึกษาค้นคว้าแล้วก็สิ่งใหม่ (กสว.) และก็ ดร.มาร์ค เจริญรุ่งเรืองสกุล

อัยการจังหวัดประจำสำนักอัยการสูงสุดศาสตราจารย์ชื่อเสียง นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธาน กสว.บอกว่า พรบ ช่วยเหลือการใช้ผลดีผลที่ได้รับจากงานวิจัยรวมทั้งสิ่งใหม่ หรือ ที่เรียกกันว่า TRIUP Act เกิดเรื่องใหม่ และก็เป็นข้อบังคับที่ใช้เวลาชูร่างถึง 10 ปี ประกาศใช้เมื่อพ.ย.2564 มีผลบังคับใช้ เดือนพฤษภาคม 2565 นับว่าเป็นข้อบังคับที่ทำให้แวดวงศึกษาค้นคว้าแล้วก็การผลิตของใหม่ได้รับผลดีอย่างยิ่ง แล้วก็จะส่งผลให้เกิดการขับเขยื้อนงานศึกษา

ค้นคว้าและการวิจัยให้ควรจะมีการนำไปใช้ประโยชน์ภายในระยะเวลาอันเร็ว เพื่อปรับปรุงประเทศอย่างเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรม ปลดล้อคและก็อุดช่องว่างก่อนหน้านี้หลายสิบปีจากการที่รัฐบาลแล้วก็ชาติลงทุนในงานค้นคว้าวิจัยและก็สิ่งใหม่ไปอย่างมากมายแต่ว่ามิได้ถูกนำไปสนับสนุนให้เป็นผล เนื่องด้วยข้อบังคับเดิมเมื่อเมืองลงทุน ผลงานการศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยต่างๆนับว่าเป็นของเมืองตามกฏหมาย ไม่อาจจะสนับสนุนงานค้นคว้าวิจัยออกไปสร้างเป็นผลิตภัณฑ์เป็นบริการหรือของใหม่ใหม่ได้เลย ในตอนที่กฏหมายใหม่

 เป็นการปลดล้อคให้ถึงแม้ว่าจะเป็นเงินทุนของภาครัฐ

แม้กระนั้นทรัพย์สินทางปัญญาเป็นของคนคิดค้นรวมทั้งภาคเอกชนก็สามารถนำไปลงทุนได้ภายในช่วงระยะเวลาอันรวดเร็วทันใจเนื่องมาจากมีกรรมวิธีการดังที่เจาะจงเอาไว้ภายในข้อบังคับอย่างแจ่มแจ้งว่า ควรจะมีการนำการค้นคว้าไปใช้ตามแผนด้านใน2 ปี สิ่งที่พวกเราต้องการมองเห็นก็คือ ภาคเอกชนจะลดความยุ่งยากของจั้นตอนสำหรับเพื่อการนำงานศึกษาวิจัยไปใช้จริง ในขณะที่นักค้นคว้าก็จะได้รับคุณประโยชน์จากผู้มาขอใช้ผลงาน

ซึ่งจะครอบคลุมไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะภาครัฐ ยังรวมทั้งเอกชนครอบถึงชุมชนหรือหน่วยงานที่ดูแลภาคสังคม “เมื่อเอกชนมีการนำผลการวิจัยไปลงทุนก็จะมีการสร้างงาน มีการจ้างแรงงาน ส่งผลผลกำไร รัฐบาลจะได้รับคุณประโยชน์จากภาษีที่ตามมาซึ่งพวกเราประมาณว่าหากแม้เมืองจะเป็นผู้บริจาคทุนเพื่อใช้ในการวิจัยและการศึกษาค้นคว้า แต่ว่าเอกชนเอาไปใช้ กำไรจากเอกชนไม่น้อยกว่า50เปอร์เซนต์จะกลับไปสู่ภาครัฐ เมืองไทยก็จะรุ่งเรือง หลุดจากสิ่งที่แวดวงศึกษาค้นคว้าเรียกกันว่าThe Valley of Death แล้วก็ส่งผลให้เกิดการเป็นประเทศที่ปรับปรุงแล้ว”

TRIUP Act

ดังนี้ ก่อนหน้านี้เมืองไทยตั้งเป้าหมายจะสร้างระดับความสามารถสร้างฐานทางด้านเศรษฐกิจให้สูงมากขึ้น เป็นประเทศอุตสาหกรรม ส่งออกผลิตภัณฑ์ราคาสูง แม้กระนั้นพวกเรากลับได้ประโยชน์เข้าประเทศเพียงแค่10เปอร์เซนต์ ที่เหลือตกอยู่ต่างถิ่น ถึงเวลาจำต้องเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจแล้วก็ของใหม่ ลดความแตกต่างรวมทั้งสร้างรายได้จากผลที่ได้รับจากงานวิจัยแล้วก็ของใหม่ ซึ่งเชื่อถือว่าหนึ่งในกลยุทธที่จะเคลื่อนได้เป็น TRIUP Act ฉบับนี้ที่จะมีคุณประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน ตลอดตัวนักค้นคว้า นักลงทุนแล้วก็ประเทศดร.มาร์ค

เจริญก้าวหน้าสกุล อัยการจังหวัดประจำอัยการสูงสุด บอกว่า ก่อนหน้านี้พวกเราได้ใช้งบประมาณอย่างมากมายไปกับการที่จะคิดของใหม่ขึ้นมาชิ้นหนึ่งและหายไปกับสายลม บางสิ่งมีการทำซำ้ บางสิ่งจะต้องมีimpact ซึ่งสามารถนำไปไขปัญหาสาธารณะได้ แม้กระนั้นผิดเอาไปใช้ ยิ่งกว่านั้นมีคนจำนวนไม่น้อยที่เกี่ยวพันกับผลงาน แต่ว่าผู้ที่มีสิทธิกลับกลายคนๆนี้ ส่วนผู้ที่ขับถัดไปจะต้องมีสิทธิได้รับคุณประโยชน์ไหม ในฐานะนักค้นคว้ามีบทบาทคิดแล้วคนทำเช่นไรก็เลยจะเป็นเจ้าของ แล้วผู้อื่นจะนำไปทำอะไรต่อได้ไม่ ปัญหากลุ่มนี้ได้รับการคลี่คลายอุดช่องว่างทั้งหมดทั้งปวงในอดีตกาล

ด้วยกฏหมายใหม่ เป็นกฏหมายที่ให้ความแน่ชัดสำหรับในการแบ่งปันผลตอบแทนได้อย่างสมบูรณ์“ พรบ.ฉบับนี้เป็นการปิดช่องโหว่ทางกฏหมาย เพราะเหตุว่าก่อนหน้านี้พวกเรามีงานศึกษาค้นคว้าวิจัยมากมายรวมทั้งมีดารลงทุนมาเป็นสิบสิบปี มีทั้งยังการวิจัยแล้วก็ของใหม่ขึ้นหิ้งไว้ พวกเราจะทำเช่นไรให้ผู้อยู่ในศูนย์วิจัย คนรับทุน ผู้บริจาคทุน ที่ประชุมแนวนโยบายมีความคิดว่า

ในที่สุดงานศึกษาเรียนรู้รวมทั้งสิ่งใหม่จะต้องทำให้เกิดการกระทำ แล้วก็มีคุณประโยชน์ โดยยิ่งไปกว่านั้นคุณประโยชน์ต่อสาธารณะแล้วก็เชิงการค้าที่กำลังจะได้ผลดีสูงสุดจากสิ่งที่คิดและก็ศึกษาค้นคว้าขึ้นมา ส่วนประกอบของ พรบ. ระบุชัดว่าเมื่อมีงานค้นคว้าแล้วต้องใช้ประโยชน์คุณประโยชน์ภายในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี คนรับทุน ผู้ศึกษาค้นคว้าและวิจัยบางครั้งอาจจะเป็นเจ้าของผลงานแต่ว่าถ้าหากไม่ดำเนิการนำไปใช้ประโนชน์อย่างที่ควรเป็น